Google ทุ่มทุน เพิ่มพื้นที่ให้ผู้ใช้งาน Gmail, Drive และ Google+ ฟรีเป็น 15 GB

Must Read

Jiradech Suchada
Jiradech Suchadahttps://www.itmoamun.com/
การตลาดออนไลน์ เทคโนโลยี ธุรกิจ Passive Income ทำตัวเป็น Blogger แถมกด Shutter รัวๆ แล้วออกไปปั่นๆ พร้อมทั้งเก็บเป็นเรื่องราวดีๆผ่านพื้นที่ตรงนี้ออกมาเป็นบทความ รูปภาพ วิดีโอ แบบเล่าสู่กันฟัง อย่าลืมมาติดตามกันนะครับ

3 บริการออนไลน์ของกูเกิลที่ครอบคลุมการประกาศครั้งนี้คือบริการฝากไฟล์ออนไลน์กูเกิลไดรฟ์ (Drive), บริการอีเมลจีเมล (Gmail) และเครือข่ายสังคมกูเกิลพลัส (Google+) โดยกูเกิลจะให้ฟรีพื้นที่ 15 GB ซึ่งสามารถแบ่งปันเพื่อใช้กับ 3 บริการได้อย่างเสรี Clay Bavo ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการผลิตภัณฑ์ของกูเกิล เชื่อว่าการเทรวมพื้นที่ให้บริการ 3 แพลตฟอร์มจะช่วยให้การทำงานร่วมกันระหว่าง 3 บริการของกูเกิลทำได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะการแนบไฟล์กูเกิลไดรฟ์ลงในอีเมล หรือการแชร์ไฟล์จากกูเกิลไดรฟ์บนเครือข่ายกูเกิลพลัส สิ่งที่เกิดขึ้นจะทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ไร้รอยต่อ ซึ่งทำไม่ได้หากยังแบ่งแยกพื้นที่ของแต่ละบริการอยู่ ผลจากการเทรวมพื้นที่ 3 บริการออนไลน์ของกูเกิลทำให้พื้นที่ฟรี 15 GB ถูกเปิดกว้างเพื่อรองรับไฟล์ใดก็ตามที่ชาวออนไลน์ต้องการเก็บรักษาไว้ โดยในทางทฤษฎีผู้ใช้จีเมลจะสามารถเก็บไฟล์ข้อมูลได้สูงสุด 15 GB โดยไม่เก็บไฟล์ใดไว้ที่บริการใดเลย หรือผู้ใช้จีเมลอาจจะเก็บไฟล์ 5 GB และเก็บไฟล์บนกูเกิลไดรฟ์ 9 GB พร้อมกับภาพอีกเล็กน้อยบน Google+ ก่อนหน้านี้กูเกิลกำหนดพื้นที่ฟรี 10 GB สำหรับบริการจีเมล และ 5 GB สำหรับบริการกูเกิลพลัส และกูเกิลไดรฟ์เท่านั้น นอกจากนี้ กูเกิลยังอัปเดตเพจจัดเก็บข้อมูลในกูเกิลไดรฟ์ โดยแสดงในรูปกราฟวงกลมที่ให้ข้อมูลว่าผู้ใช้ได้ใช้งานพื้นที่เก็บข้อมูลไปเท่าใดแล้วในแต่ละแพลตฟอร์ม จุดนี้กูเกิลสร้างเมนูอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้สามารถคลิกซื้อพื้นที่เพิ่มได้ง่ายขึ้น ซึ่งผู้สนใจสามารถซื้อเพิ่มพื้นที่เป็น 100 GB ได้ทันทีในราคา 4.99 เหรียญสหรัฐต่อเดือน หรือประมาณ 150 บาท

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

ปรับตัวใหม่! ตลาดหุ้นโลกและผลการประชุมธนาคารกลางส่งสัญญาณอะไรบ้าง?

สัปดาห์นี้เราเห็นการเคลื่อนไหวใหญ่ในตลาดหุ้นทั่วโลก ที่มาพร้อมกับการตัดสินใจสำคัญจากธนาคารกลางหลายแห่ง ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงดอกเบี้ยไปจนถึงการอัปเดตเศรษฐกิจที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่น่าสนใจคือ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ได้ให้สัญญาณว่าอาจจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ตามด้วยธนาคารกลางสวิสฯ ที่เริ่มต้นด้วยการลดดอกเบี้ยลง 0.25% เป็นการตอบสนองต่อเงินเฟ้อที่ลดลง ในอีกด้านของโลก, ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ก็ทำการปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี ขณะที่ยังคงนโยบายการซื้อพันธบัตร เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจในขณะนี้...
- Advertisement -

More Articles Like This