Google บุกตลาดสุขภาพ เปิดตัว Calico บริษัทพัฒนาสุขภาพและต้านความชรา

Must Read

Jiradech Suchada
Jiradech Suchadahttps://www.itmoamun.com/
การตลาดออนไลน์ เทคโนโลยี ธุรกิจ Passive Income ทำตัวเป็น Blogger แถมกด Shutter รัวๆ แล้วออกไปปั่นๆ พร้อมทั้งเก็บเป็นเรื่องราวดีๆผ่านพื้นที่ตรงนี้ออกมาเป็นบทความ รูปภาพ วิดีโอ แบบเล่าสู่กันฟัง อย่าลืมมาติดตามกันนะครับ

Google ประกาศแผนลงทุนครั้งใหม่แหวกแนวกว่าเดิม ชูชื่อบริษัท “แคลิโค (Calico)” หรือชื่อเต็มว่า California Life Company เพื่อลุยพัฒนานวัตกรรมด้านสุขภาพเพื่อต้านทานโรคภัยไข้เจ็บและความชรา งานนี้ยักษ์ใหญ่เสิร์ชเอนจินพร้อมลุยจริงจังด้วยการยกบริษัทให้อยู่ภายใต้การดูแลของมือดีผู้เชี่ยวชาญด้านชีววิทยาอย่าง “อาร์เธอร์ เลวินสัน (Arthur Levinson)” ซึ่งมีดีกรีเป็นประธานแอปเปิลคนปัจจุบัน และเคยมีตำแหน่งเป็นผู้บริหารกูเกิลมาก่อน เบื้องต้นรายละเอียดการลงทุนยังไม่เป็นที่เปิดเผย California Life Company, Calico by google แลร์รี เพจ (Larry Page) ซีอีโอกูเกิลประกาศแผนลงทุนในธุรกิจนวัตกรรมหลุดโลกอย่างรถยนต์ไร้คนขับ, แว่นตาอัจฉริยะที่ชาวออนไลน์จะสามารถท่องเน็ตได้ด้วยการวาดมือบนอากาศและเสียงพูด รวมถึงบอลลูนยักษ์ปล่อยสัญญาณไว-ไฟที่จะทำให้ผู้อาศัยในพื้นที่ห่างไกลสามารถออนไลน์ได้ในวงกว้าง ล่าสุดซีอีโอกูเกิลประกาศตั้งบริษัทใหม่ในชื่อ Calico เพื่อให้ชาวโลกมีนวัตกรรมด้านสุขภาพที่ช่วยให้แข็งแรงและฟิตอยู่เสมอ อีกสิ่งที่ทำให้โครงการนี้ได้รับความสนใจมาก คือ การดึงผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีชีววิทยาอย่างอาร์เธอร์ เลวินสัน มาเป็นซีอีโอของบริษัท Calico โดยก่อนหน้านี้ เลวินสันเคยมีดีกรีเป็นซีอีโอบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านวิทยาศาตร์เพื่อคุณภาพชีวิตอย่างจีเนนเทค (Genentech) และเคยเป็นหนึ่งในกรรมการบริหารกูเกิลที่ควบตำแหน่งกรรมการบริหารแอปเปิล โดยเลวินสันขึ้นนั่งตำแหน่งประธานแอปเปิลหรือ Chairman ให้แอปเปิลตั้งแต่ปี 2011 ถึงปัจจุบัน รายงานระบุว่า Calico จะตั้งสำนักงานที่เขตเบย์แอเรีย (Bay Area) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสำนักงานใหญ่กูเกิลที่ย่านเมาเทนวิว (Mountain View) ทั้งหมดนี้ไม่มีการเปิดเผยมูลค่าการลงทุนในบริษัท Calico ใดๆ เบื้องต้นซีอีโอกูเกิลอธิบายวิสัยทัศน์ของการลงทุนในบริษัท Calico ไว้อย่างยิ่งใหญ่ว่าปัญหาสุขภาพและความชรานั้นส่งผลกระทบต่อทุกคน ตั้งแต่ความสามารถในการเคลื่อนไหวที่ช้าลงไปจนถึงความคล่องตัวที่ลดลง ปัญหาที่เกิดขึ้นตามอายุที่มากขึ้นกลายเป็นโรคที่คุกคามชีวิตซึ่งส่งผลต่อเนื่องทั้งทางกายภาพ และอารมณ์ มีผลกระทบกับชีวิตส่วนบุคคลและชีวิตครอบครัวในที่สุด ทั้งหมดนี้ทำให้ Calico เกิดขึ้นเพื่อพัฒนานวัตกรรมที่จะสามารถแก้ปัญหานี้ได้ โจซ สตีเฟนส์ (Josh Stevens) ซีอีโอบริษัทสตาร์ทอัปเกิดใหม่ด้านสุขภาพนามว่าคียส์ (Keas) มองว่าการเข้าสู่อุตสาหกรรมเฮลท์แคร์ของกูเกิลจะเป็นผลดีต่อตลาด เนื่องจากสิ่งที่กูเกิลประกาศเรื่องราวของ Calico ในวันนี้จะทำให้โลกหันมาเห็นความสำคัญของปัญหาสุขภาพเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะปัญหาของโรคที่ยังไม่สามารถรักษาได้อย่างโรคมะเร็งและอัลไซเมอร์ ซึ่งทั้งหมดนี้จะนำไปสู่กระบวนการระวังและรักษาที่ดีกว่าปัจจุบัน หนึ่งในความเป็นไปได้ที่สตีเฟนส์มอง คือบริษัทลูกของกูเกิลกำลังก้าวเข้าไปสู่อุตสาหกรรมยาต้านความชรา ซึ่งถือเป็นสิ่งที่สาวกผู้เชื่อมั่นในกูเกิลต้องจับตามอง แถลงการณ์ของกูเกิลยังระบุถึงคำให้สัมภาษณ์ของซีอีโอแอปเปิล อย่างทิม คุก (Tim Cook) ซึ่งระบุว่าเลวินสันมีดีกรีความบ้าบิ่นเอาจริงเอาจังที่เหมาะสมกับการดูแลบริษัทด้านสุขภาพของกูเกิล โดยยอมรับว่าจะรอชมผลลัพท์จากการพัฒนาของทีม Calico ต่อไป นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่กูเกิลพยายามตอบโจทย์ผู้รักสุขภาพทั่วโลก เนื่องจากก่อนหน้านี้กูเกิลเคยเปิดตัวบริการกูเกิลเฮลท์ (Google Health) แต่ถูกยกเลิกไปในปีที่แล้ว (2012) โดยบริการดังกล่าวมีแนวคิดเปิดกว้างให้ผู้บริโภคทุกคนสามารถเก็บรักษาข้อมูลสุขภาพของตัวเองไว้บนโลกออนไลน์ เพื่อให้การย้ายโรงพยาบาลหรือการเปลี่ยนทีมแพทย์ที่ดำเนินการรักษาสามารถทำได้สะดวกและถูกต้อง อย่างไรก็ตาม บริการดังกล่าวกลับไม่แพร่หลายเนื่องจากบริการนี้ไม่ได้รับการประชาสัมพันธ์ที่เพียงพอ รวมถึงความสามารถด้านความปลอดภัยที่ทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่เลือกที่จะไม่กรอกข้อมูลสุขภาพของตัวเองลงไปบนโลกออนไลน์ ทั้งหมดนี้คาดว่า กูเกิลจะบริหาร Calico อย่างระมัดระวังบนบทเรียนที่ได้รับจากบริการด้านสุขภาพที่เคยทำมา ที่มา : CyberBiz

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก: ผลกระทบจาก Fed, ราคาน้ำมัน

ตลาดหุ้นทั่วโลกประสบกับการปรับตัวลดลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ภายใต้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันพบกับความผันผวน โดยมีการเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อน และลดลงในวันที่ 8 เมษายน หลังการเจรจาหยุดยิงในตะวันออกกลาง ทองคำก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน เหตุการณ์แผ่นดินไหวในไต้หวันส่งผลกระทบจำกัดต่ออุตสาหกรรมผลิตชิป และตลาดหุ้นจีนได้รับประโยชน์จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด เงินเฟ้อในยุโรปก็แสดงถึงการลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่การลดดอกเบี้ยจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในเดือนมิถุนายน ด้านผู้จัดการกองทุนต่างคาดการณ์ว่าตลาดโดยรวมจะแกว่งตัวตามข้อมูลเงินเฟ้อและผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐฯ ภาพรวมตลาดที่ผ่านมาแกว่งตัวในแนวข้าง...
- Advertisement -

More Articles Like This