Joby Aviation ได้รับใบอนุญาต Part 135 จาก FAA เตรียมเปิดบริการแท็กซี่บินในปี 20

Must Read

ปัจจุบันแท็กซี่บินกลายเป็นเทรนด์เทคโนโลยีที่กำลังถูกพัฒนาอย่างรวดเร็วโดยบริษัทเอกชนชั้นนำในหลายประเทศ ล่าสุดบริษัทจ๊อบบี้ เอวิเอชัน (Joby Aviation) หนึ่งในบริษัทที่มีเทคโนโลยีแท็กซี่บินชั้นนำกำลังเตรียมเปิดให้บริการแท็กซี่บินขนส่งผู้โดยสารเชิงพาณิชย์ในปี 2024 หลังจากผ่านขั้นตอนแรกของการขอใบรับรองจากองค์การบริหารการบินแห่งชาติ (Federal Aviation Administration: FAA) ของสหรัฐฯ

สรุปข้อมูลและรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้ดังนี้

  • Joby Aviation เป็นพันธมิตรกับบริษัทโตโยต้า ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีรถยนต์ในประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ทางบริษัทยังได้พัฒนาเครื่องต้นแบบและทำการทดสอบร่วมกับองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (NASA) ในรูปของอากาศยานประเภท eVTOL (Electronic Vertical Take-off and Landing) ที่ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบชาร์จซ้ำได้เป็นแหล่งพลังงาน ตัวเครื่องสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ประมาณ 320 กิโลเมตร/ชั่วโมง เป็นระยะทางประมาณ 248 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 รอบ และมีจุดเด่นสำคัญที่เสียงรบกวนจากการทำการบินที่ต่ำมาก แม้แต่ขณะอยู่ในระยะ 100 เมตรก็มีเสียงรบกวนแค่ 65 เดซิเบล (dB) ซึ่งไม่ต่างจากเสียงตอนใช้เครื่องดูดฝุ่นในบ้านแต่อย่างใด
  • ในตอนนี้ Joby Aviation ได้รับใบรับรองให้บริการขนส่งผู้โดยสารทางอากาศ (Part 135) จากองค์การบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐฯ (FAA) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งนับเป็นใบอนุญาตฉบับแรกจากใบอนุญาตที่สำคัญทั้งหมด 3 ฉบับ เพื่อทำให้การเปิดบริการแท็กซี่บินขนส่งผู้โดยสารเชิงพาณิชย์ถูกต้องตามกฎหมาย ในขณะที่แผนแม่บทการพัฒนาของ Joby Aviation ตั้งเป้าเดินหน้าการผลิตเชิงอุตสาหกรรมและผลักดันการเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการภายในปี 2024

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรมในด้านแท็กซี่บินมากที่สุด แต่ทั้ง Joby Aviation และบริษัทอื่นๆ ก็ประสบปัญหาความล่าช้าจากการทำงานของ FAA ที่เปลี่ยนแปลงแนวทางการให้ใบรับรอง eVTOL ซึ่งมีผลต่อระยะเวลาในกระบวนการยื่นคำร้องขอของผู้ผลิต eVTOL รายต่างๆ ในสหรัฐฯ รวมถึง Joby Aviation ด้วยเช่นกัน รวมถึงมีความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่า Joby Aviation อาจจะไม่สามารถเปิดบริการในปี 2024 ได้ เพราะกระบวนการอนุญาตของ FAA อาจจะกินเวลามากกว่า 5 ปีนั่นเอง

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก: ผลกระทบจาก Fed, ราคาน้ำมัน

ตลาดหุ้นทั่วโลกประสบกับการปรับตัวลดลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ภายใต้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันพบกับความผันผวน โดยมีการเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อน และลดลงในวันที่ 8 เมษายน หลังการเจรจาหยุดยิงในตะวันออกกลาง ทองคำก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน เหตุการณ์แผ่นดินไหวในไต้หวันส่งผลกระทบจำกัดต่ออุตสาหกรรมผลิตชิป และตลาดหุ้นจีนได้รับประโยชน์จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด เงินเฟ้อในยุโรปก็แสดงถึงการลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่การลดดอกเบี้ยจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในเดือนมิถุนายน ด้านผู้จัดการกองทุนต่างคาดการณ์ว่าตลาดโดยรวมจะแกว่งตัวตามข้อมูลเงินเฟ้อและผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐฯ ภาพรวมตลาดที่ผ่านมาแกว่งตัวในแนวข้าง...
- Advertisement -

More Articles Like This