MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว ที่ออกมาช่วงกลางปี 2012 ใกล้จะกลายเป็นของเก่าแล้ว

Must Read

สวัสดีคอไอที และชาวแม็คบุ๊คทุกคน วันนี้เรามีข่าวสำคัญจะมาแจ้งให้คุณได้ทราบว่า ตอนนี้ MacBook Pro รุ่นสุดท้ายที่มี CD Drive กำลังจะถูกขึ้นบัญชีเป็นผลิตภัณฑ์รุ่นเก่าของ Apple แล้ว ซึ่งรายละเอียดเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร ติดตามหาคำตอบได้ที่ด้านล่างนี้เลย

สรุปข้อมูลและรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับประเด็นนี้ ได้ดังนี้

  • Apple จะเพิ่ม MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว ที่ออกมาช่วงกลางปี 2012 ไว้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์รุ่นเก่า หรือ Vintage ในวันที่ 31 มกราคมนี้ ตามรายงานของเว็บไซต์ MacRumors
  • MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว ที่วางจำหน่ายในเดือนมิถุนายน 2012 เป็น MacBook Pro รุ่นสุดท้ายที่มาพร้อม CD/DVD Drive และยังคงมีวางจำหน่ายจนถึงเดือนตุลาคม 2016 ในฐานะตัวเลือกราคาประหยัด ควบคู่กับการทำตลาด MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว ที่มาพร้อมจอแสดงผล Retina
  • ผลิตภัณฑ์รุ่นเก่า หรือ Vintage ของ Apple หมายถึง ผลิตภัณฑ์ที่หยุดการจัดจำหน่ายมาแล้ว 5 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 7 ปี ซึ่งหมดสิทธิ์รับการซ่อมแซมส่วนใหญ่ในหลายประเทศ แต่ Apple Store และผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตจาก Apple บางแห่ง ยังคงให้บริการซ่อมผลิตภัณฑ์รุ่นเก่าเป็นเวลาสูงสุด 7 ปี (ขึ้นอยู่กับความพร้อมของอะไหล่)
  • นอกจากนี้ MacBook อาจเข้าเกณฑ์ในเรื่องระยะเวลาการซ่อมเฉพาะแบตเตอรี่แบบขยายระยะเวลานานสูงสุด 10 ปี นับจากวันที่จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นครั้งสุดท้าย (ขึ้นอยู่กับความพร้อมของอะไหล่)
  • ด้านซอฟต์แวร์ MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว ที่ออกมาช่วงกลางปี 2012 หยุดสนับสนุนตั้งแต่ Apple ปล่อย macOS Big Sur ในปี 2020

และนี่ก็คือข่าวสำคัญเกี่ยวกับ MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว ที่ออกมาช่วงกลางปี 2012 ที่เราอยากแจ้งให้เพื่อนๆ ได้ทราบในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์ สำหรับใครที่เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ตัวนี้อยู่ก็เตรียมตัวรับความเปลี่ยนแปลงกันไว้ให้ดีเลยนะครับ

ที่มา

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

เผยรายงานคนไทยเผชิญ SMS หลอกลวงมากสุดในเอเชียปี 2566 จาก Whoscall

ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลเป็นสิ่งที่ไหลเวียนได้รวดเร็วที่สุด ประเด็นเรื่องความปลอดภัยสารสนเทศก็เป็นหัวข้อที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงอย่างต่อเนื่อง Whoscall, แอปพลิเคชั่นชั้นนำที่ช่วยในการระบุตัวตนของสายเรียกเข้าไม่ที่รู้จักและการป้องกันข้อความสแปม, ได้เปิดเผยรายงานประจำปี 2566 ที่แสดงให้เห็นว่าคนไทยตกเป็นเหยื่อของ SMS หลอกลวงมากกว่าใครในเอเชียด้วยจำนวนถึง 58 ล้านข้อความ แม้ว่าในภูมิภาคเอเชียโดยรวมจะพบว่าการหลอกลวงมีแนวโน้มลดลงจากการทำงานร่วมกันของภาครัฐและภาคเอกชน แต่ในประเทศไทยกลับพบว่ามีการเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ การหลอกลวงเหล่านี้รวมถึงการส่งข้อความที่มีลิงก์ปลอม, การหลอกลวงเกี่ยวกับการลงทุนและเว็บพนัน และการใช้ชื่อของหน่วยงานรัฐในการหลอกลวง การรายงานจาก Whoscall ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการรับข้อมูล พวกเขายังได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบ URL...
- Advertisement -

More Articles Like This