Mazda เตรียมผลักดันให้รถยนต์ Mazda 6 ในอนาคตที่จะออกสู่ตลาดกลายเป็นรถหรูในระดับเดียวกับ BMW

Must Read

สวัสดีเพื่อนๆ ชาว ไอทีเมามันส์ ทุกคน พบกันเป็นประจำเช่นเคยกับข่าวความเคลื่อนไหวในโลกแห่งยานยนต์ สำหรับครั้งนี้เรามีข่าวดีจะมาแจ้งให้เพื่อนๆ ได้ทราบว่า Mazda เตรียมยกระดับมาตรฐานของซีดานแฟล็กชิพอย่าง Mazda 6 ให้มีความพรีเมียมยิ่งขึ้นกับเจนเนอเรชั่นใหม่ที่จะเปิดตัวภายในช่วงปลายปี 2022 โดยจะพัฒนา Mazda 6 “ขุมพลัง 6 สูบเรียง ขับหลัง สูตรเดียวกับที่ BMW ใช้ รายละเอียดจะเป็นอย่างไร วันนี้เราได้สรุปมาให้ได้ทราบแล้ว 

สรุปความเคลื่อนไหว Mazda 6 ที่จะกลายเป็นรถหรูระดับเดียวกับ BMW 

1. เว็บไซต์ Car & Driver รายงานว่า Mazda 6 จะเดินตามสูตรสำเร็จแบบเดียวกับ BMW ด้วยการใช้แพลตฟอร์มขับเคลื่อนล้อหลังและวางเครื่องยนต์ 6 สูบแถวเรียงอันทรงพลังที่น่าจะถูกใจผู้ที่รักการขับขี่และคอรถยนต์ระดับพรีเมียม

2. มีรายงานว่าเครื่องยนต์ 6 สูบแถวเรียงใน Mazda 6 ใหม่นั้นจะเป็นเทคโนโลยี Skyactiv-X และมีระบบไมลด์ไฮบริด 48 โวลต์พ่วงมาด้วยเพื่อเพิ่มความประหยัดน้ำมัน

3.  เครื่องยนต์ 6 สูบแถวเรียง Skyactiv-X อาจถูก Toyota หยิบยืมไปใช้กับ Lexus IS และ RC เจนเนอเรชั่นใหม่ที่จะเปิดตัวในอีก 1-2 ปีข้างหน้าด้วย 

4. สำหรับรูปลักษณ์ภายนอกของ Mazda 6 จะถ่ายทอดสไตล์การออกแบบอันสวยงามของรถสปอร์ตซีดานต้นแบบ Vision Coupe ซึ่งเปิดตัวที่งานโตเกียว มอเตอร์โชว์ 2017

5. ดีไซน์ฝากระโปรงหน้าของ Mazda 6 จะมีความยาวมาเป็นพิเศษ เส้นสายตัวถังราบรื่นเนียนตา และมีกระจกบังลมขนาดเล็กรอบคัน

6. อีกทั้งยังมีความเป็นไปได้ด้วยว่า Mazda 6 รุ่นใหม่จะมีเวอร์ชั่นคูเป้ที่สามารถขยายไปดึงดูดกลุ่มลูกค้ารถสปอร์ตขนาดใหญ่ได้อีกด้วย ซึ่งเป็นกลยุทธ์การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่คล้ายกับ BMW อีกเช่นเดียวกัน

และนี่ก็คือข่าวความเคลื่อนไหวล่าสุดจากค่ายยานยนต์ Mazda บริษัทยานยนต์ยักษ์ใหญ่จากแดนอาทิตย์อุทัยที่เตรียมพร้อมจะผลักดันให้รถยนต์ Mazda 6 กลายเป็นรถยนต์หรูในระดับเดียวกับ BMW 

ที่มา: เว็บไซต์ Car & Driver

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก: ผลกระทบจาก Fed, ราคาน้ำมัน

ตลาดหุ้นทั่วโลกประสบกับการปรับตัวลดลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ภายใต้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันพบกับความผันผวน โดยมีการเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อน และลดลงในวันที่ 8 เมษายน หลังการเจรจาหยุดยิงในตะวันออกกลาง ทองคำก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน เหตุการณ์แผ่นดินไหวในไต้หวันส่งผลกระทบจำกัดต่ออุตสาหกรรมผลิตชิป และตลาดหุ้นจีนได้รับประโยชน์จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด เงินเฟ้อในยุโรปก็แสดงถึงการลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่การลดดอกเบี้ยจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในเดือนมิถุนายน ด้านผู้จัดการกองทุนต่างคาดการณ์ว่าตลาดโดยรวมจะแกว่งตัวตามข้อมูลเงินเฟ้อและผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐฯ ภาพรวมตลาดที่ผ่านมาแกว่งตัวในแนวข้าง...
- Advertisement -

More Articles Like This