Mercedes-Benz เดินหน้าขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ปลั๊กอินไฮบริด EQ Power

Must Read

สวัสดีเพื่อนๆ ชาว ไอทีเมามันส์ ทุกคน วันนี้ข่าวความเคลื่อนไหวในโลกยานยนต์ เราจะพาเพื่อนๆ มาเกาะติดค่าย Mercedes-Benz ที่ตอนนี้พวกเค้ากำลังเดินหน้าขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ปลั๊กอินไฮบริด EQ Power อย่างต่อเนื่องด้วยการนำเสนอ GLA, CLA และ CLA Shooting Brake เวอร์ชั่นขุมพลังลูกผสมใหม่

รถตระกูล EQ รุ่นใหม่ข้างต้นจะมาพร้อมระบบปลั๊กอินไฮบริดเจนเนอเรชั่นที่ 3 

=> ซึ่งใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 1.3 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าพละกำลัง 102 แรงม้า และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน 15.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง

=> ระบบขับเคลื่อนชุดใหม่มาพร้อมพละกำลังรวมทั้งหมดที่ 218 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุดพอตัว 450 นิวตันเมตร ไฮไลท์อยู่ที่อัตราาความประหยัดน้ำมันถึง 1.4 ลิตรต่อ 100 กม. หรือประมาณ 71 กม.ต่อลิตรเลยทีเดียว

=> อัตราเร่งของ CLA 250 e สามารถออกตัวจาก 0-100 กม.ต่อชม. ได้ที่ 6.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 240 กม.ต่อชม. มีระยะทางขับขี่ด้วยไฟฟ้าระหว่าง 60-69 กม.

=> ขณะที่รุ่น CLA Shooting Brake เร่งได้ช้ากว่าเล็กน้อย 0-100 กม.ต่อชม. ใน 6.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 235 กม.ต่อชม. และขับขี่ด้วยไฟฟ้าได้ไกล 58-68 กม.

=> ส่วน GLA 250 e ออกตัวจากหยุดนิ่งถึง 100 กม.ต่อชม. ใน 7.1 วินาที ท็อปสปีด 220 กม.ต่อชม. และวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วน ๆ ได้ 53-61 กม.

=> เมื่อแบตเตอรี่เหลือพลังงาน 10% การชาร์จไฟให้เต็มด้วยระบบชาร์จไฟกระแสสลับ 7.4 กิโลวัตต์ได้ภายใน 1 ชั่วโมง 45 นาที ขณะที่การชาร์จไฟด่วนกระแสตรง 24 กิโลวัตต์ 10%-80% ทำได้ในเวลาประมาณ 25 นาที

=> ระบบขับเคลื่อนชุดใหม่ไม่ส่งผลต่อพื้นที่จัดเก็บสัมภาระมากนัก เนื่องจากลดขนาดท่อไอเสียและปรับดีไซน์ถังน้ำมันใหม่ซึ่งมีตำแหน่งติดกับเพลาหลัง จึงมีพื้นที่เพิ่มเติมสำหรับการติดตั้งชุดแบตเตอรี่กำลังสูง

ที่มา: เว็บไซต์ Carscoops.com

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

เผยรายงานคนไทยเผชิญ SMS หลอกลวงมากสุดในเอเชียปี 2566 จาก Whoscall

ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลเป็นสิ่งที่ไหลเวียนได้รวดเร็วที่สุด ประเด็นเรื่องความปลอดภัยสารสนเทศก็เป็นหัวข้อที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงอย่างต่อเนื่อง Whoscall, แอปพลิเคชั่นชั้นนำที่ช่วยในการระบุตัวตนของสายเรียกเข้าไม่ที่รู้จักและการป้องกันข้อความสแปม, ได้เปิดเผยรายงานประจำปี 2566 ที่แสดงให้เห็นว่าคนไทยตกเป็นเหยื่อของ SMS หลอกลวงมากกว่าใครในเอเชียด้วยจำนวนถึง 58 ล้านข้อความ แม้ว่าในภูมิภาคเอเชียโดยรวมจะพบว่าการหลอกลวงมีแนวโน้มลดลงจากการทำงานร่วมกันของภาครัฐและภาคเอกชน แต่ในประเทศไทยกลับพบว่ามีการเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ การหลอกลวงเหล่านี้รวมถึงการส่งข้อความที่มีลิงก์ปลอม, การหลอกลวงเกี่ยวกับการลงทุนและเว็บพนัน และการใช้ชื่อของหน่วยงานรัฐในการหลอกลวง การรายงานจาก Whoscall ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการรับข้อมูล พวกเขายังได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบ URL...
- Advertisement -

More Articles Like This