Microsoft ได้เผยสเปคของอุปกรณ์ที่สามารถรองรับ Window 11 ได้ออกมาแล้ว

Must Read

สวัสดีคอไอทีทุกคน วันนี้เรามีข่าวสำคัญจะมาแจ้งให้ทุกท่านได้ทราบว่า เร็วๆ นี้ Microsoft ได้เผยข้อกำหนดแล็ปท็อปที่รองรับ Windows 11 ออกมาแล้ว โดยพื้นฐานจะต้องมี Bluetooth และ Precision Touchpad

อุปกรณ์ที่สามารถอัพเกรดเป็น Windows 11 จะต้องมี Secure Boot และ TPM 2.0 และมีสเปกขั้นต่ำดังต่อไปนี้

  • 1Ghz 64-bit dual-core processor
  • 4GB RAM
  • 64GB storage
  • 9-inch display (1366×768 resolution)
  • UEFI, Secure Boot & TPM 2.0
  • DirectX 12 compatible graphics / WDDM 2.x
  • นอกเหนือจากข้อกำหนดข้างต้น แล็ปท็อป แท็บเล็ต และอุปกรณ์พกพาอื่นๆ ที่จะเปิดตัวในอนาคต (ไม่รวมเดสก์ท็อปพีซี) จะต้องมาพร้อมกับ Bluetooth 4.0 หรือสูงกว่า และรองรับ Precision Touchpad จึงจะสามารถทำงานบน Windows 11 ได้
  • Microsoft ยังกำหนดให้อุปกรณ์ Windows 11 ต้องมี Wi-Fi หรือ Ethernet สำหรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และแนะนำให้ผู้ใช้งานติดตั้ง Windows 11 บนที่เก็บข้อมูลแบบไม่หมุน อย่าง SSD เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
  • อุปกรณ์ Windows 11 จำเป็นต้องมีพอร์ต USB อย่างน้อย 1 พอร์ต และหากผู้ผลิตวางแผนที่จะใช้ USB-C PD (Power Delivery) ก็จำเป็นต้องใช้ USB Type-C เวอร์ชั่นใหม่ที่ได้รับการรับรองตามของ USB-IF
  • นอกจากนี้ Microsoft ยังวางแผนที่จะกำหนดให้แล็ปท็อปต้องมีเว็บแคมด้วย แม้ว่าข้อกำหนดดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2023

และนี่ก็คือสเปคของอุปกรณ์ที่จะสามารถรองรับ Window 11 ได้ ซึ่งเราอยากแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้จักในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับชาววินโดว์ทุกคน ดังนั้นใครที่สนใจอยากใช้งานระบบปฏิบัติการนี้ ก็ต้องรีบเตรียมตัวจัดหาอุปกรณ์ที่รองรับกันไว้ก่อนล่วงหน้าได้เลย

ที่มา

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก: ผลกระทบจาก Fed, ราคาน้ำมัน

ตลาดหุ้นทั่วโลกประสบกับการปรับตัวลดลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ภายใต้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันพบกับความผันผวน โดยมีการเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อน และลดลงในวันที่ 8 เมษายน หลังการเจรจาหยุดยิงในตะวันออกกลาง ทองคำก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน เหตุการณ์แผ่นดินไหวในไต้หวันส่งผลกระทบจำกัดต่ออุตสาหกรรมผลิตชิป และตลาดหุ้นจีนได้รับประโยชน์จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด เงินเฟ้อในยุโรปก็แสดงถึงการลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่การลดดอกเบี้ยจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในเดือนมิถุนายน ด้านผู้จัดการกองทุนต่างคาดการณ์ว่าตลาดโดยรวมจะแกว่งตัวตามข้อมูลเงินเฟ้อและผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐฯ ภาพรวมตลาดที่ผ่านมาแกว่งตัวในแนวข้าง...
- Advertisement -

More Articles Like This