Mojo Lens เลนส์ AR อัจฉริยะติดตามสุขภาพถูกเดินหน้าลุยทดสอบใกล้ความจริง

Must Read

สวัสดีคอไอทีทุกคน วันนี้เรามีข่าวดีจะแจ้งให้ทราบว่า ล่าสุดนักวิจัยได้ลุยทดสอบเลนส์อัจฉริยะ ติดเซนเซอร์เช็คสุขภาพแล้ว หลังจากที่ต้องรอมานาน ซึ่งรายละเอียดเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร เรามาติดตามกันเลย

สรุปรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับประเด็นนี้ ได้ดังนี้

  • ความหวังของการพัฒนาเลนส์อัจฉริยะใกล้เป็นความจริง Mojo Lens ผลงานของบริษัท Startup ในอเมริกา เจ้าของเทคโนโลยีนี้เลนส์ AR ตัดสินใจเดินหน้าทดสอบการใช้งานจริงแล้ว หลังพัฒนามากว่า 5 ปี
  • ต้นแบบเลนส์ที่ใช้ในการทดสอบครั้งนี้ นอกจากจะช่วยแก้ไขการมองเห็นแล้ว ยังได้รวมเอาจอแสดงผล microLED ขนาดเล็ก ติดเซนเซอร์อัจฉริยะ และแบตเตอรี่โซลิดสเตต ทำให้ผู้สวมใส่มองเห็นสิ่งที่ลอยอยู่ด้านหน้า คล้ายกับหน้าจอคอมพิวเตอร์
  • โดยได้ทีมวิจัยจาก University of Surrey ร่วมพัฒนาคอนแทคเลนส์อัจฉริยะที่มีเครื่องตรวจจับภาพถ่ายเพื่อรับข้อมูลออปติคัล เซ็นเซอร์อุณหภูมิสำหรับวินิจฉัยโรคกระจกตาที่อาจเกิดขึ้น และเซ็นเซอร์ตรวจวัดระดับน้ำตาลกลูโคสในของเหลวน้ำตา
  • ความหวังของของโปรเจคต์นี้คือใช้ช่วยวินิจฉัยและรักษาโรคได้ ตั้งแต่ติดตามความดันในลูกตาของผู้สวมใส่ ระดับน้ำตาลที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน หรือแม้แต่โรคมะเร็ง ที่รู้ล่วงหน้าได้จากตัวบ่งชี้ทางชีวภาพ เช่น โมเลกุลที่เกี่ยวข้องกับมะเร็ง
  • ความท้าทายของเทคโนโลยีเลนส์อัจฉริยะนี้ นอกจากจะต้องปรับแต่งประสิทธิภาพให้พร้อมใช้งานแล้ว ความยากของการทดสอบคือทำอย่างไรให้สวมใส่ได้เป็นเวลานาน หรือตลอดทั้งวันให้เหมาะกับการใช้งานจริง ซึ่งทีมวิจัยได้พัฒนาให้เลนส์มีชั้นตาข่ายที่บางเป็นพิเศษ สามารถใส่ชั้นเซนเซอร์ลงบนคอนแทคเลนส์โดยตรง ทำให้รู้สึกสบายเมื่อสวมใส่เพราะมีความยืดหยุ่นขณะสัมผัสโดยตรงกับสารละลายน้ำตา
  • อีกทั้งพลังงานจากแบตเตอรี่ที่ซ่อนอยู่ในตัวเลนส์ ที่ต้องมีขนาดเล็กและมีพลังงานเพียงพอสำหรับการใช้งาน แบบที่ใส่ได้ทั้งวันโดยไม่ต้องชาร์จใหม่ โดยเลนส์ของ Mojo จะใช้งานได้ไม่เกิน 1 ปี และสามารถแจ้งเตือนช่วงเวลาทำความสะอาดได้

การทดสอบครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งอีกหนึ่งความพยายามในการพัฒนาแว่นตาอัจฉริยะที่ยังคงเดินหน้าต่อเนื่อง ท่ามกลางอุปสรรค ตัวอย่างเช่นความล้มเหลวของ Google Glass แว่นตาอัจฉริยะของกูเกิ้ล รวมถึงข้อกังวลกรณีมีการใช้กล้องถ่ายภาพ หรือบันทึกวิดีโอ ที่อาจส่งผลกระทบถึงเรื่องความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัยของข้อมูล ที่ต้องผ่านอีกหลายด่านกว่าจะออกมาใช้งานจริงได้ ดังนั้นหากมีความคืบหน้าประการใดเกี่ยวกับเทคโนโลยีตัวนี้อีก เราจะรีบมาอัพเดทให้ทุกท่านได้ทราบก่อนใครทันที

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

เผยรายงานคนไทยเผชิญ SMS หลอกลวงมากสุดในเอเชียปี 2566 จาก Whoscall

ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลเป็นสิ่งที่ไหลเวียนได้รวดเร็วที่สุด ประเด็นเรื่องความปลอดภัยสารสนเทศก็เป็นหัวข้อที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงอย่างต่อเนื่อง Whoscall, แอปพลิเคชั่นชั้นนำที่ช่วยในการระบุตัวตนของสายเรียกเข้าไม่ที่รู้จักและการป้องกันข้อความสแปม, ได้เปิดเผยรายงานประจำปี 2566 ที่แสดงให้เห็นว่าคนไทยตกเป็นเหยื่อของ SMS หลอกลวงมากกว่าใครในเอเชียด้วยจำนวนถึง 58 ล้านข้อความ แม้ว่าในภูมิภาคเอเชียโดยรวมจะพบว่าการหลอกลวงมีแนวโน้มลดลงจากการทำงานร่วมกันของภาครัฐและภาคเอกชน แต่ในประเทศไทยกลับพบว่ามีการเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ การหลอกลวงเหล่านี้รวมถึงการส่งข้อความที่มีลิงก์ปลอม, การหลอกลวงเกี่ยวกับการลงทุนและเว็บพนัน และการใช้ชื่อของหน่วยงานรัฐในการหลอกลวง การรายงานจาก Whoscall ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการรับข้อมูล พวกเขายังได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบ URL...
- Advertisement -

More Articles Like This