Peugeot กลับเข้ามาทำตลาดในเมืองไทยอีกครั้งในฐานะ New Niche และยังคงมั่นใจในศักยภาพของเศรษฐกิจไทย

Must Read

สวัสดีเพื่อนๆ ชาว ไอทีเมามันส์ ทุกคน พบกันเป็นประจำเช่นเคยกับความเคลื่อนไหวในโลกธุรกิจยานยนต์ สำหรับครั้งนี้เป็นความเคลื่อนไหวจากค่าย Peugeot ที่พวกเค้าประกาศว่ายังคงมั่นใจเศรษฐกิจไทยแข็งแรง ที่ลูกค้ามองหาความแตกต่างที่มากกว่ารถทั่วไปในตลาด

หลังจากเปิดตัวดีลเลอร์แรกในเดือนตุลาคมมาจนถึงปัจจุบัน

Peugeot ส่งมอบรถให้กับลูกค้าไปแล้ว 200 กว่าคัน มีโชว์รูม 4 แห่งและศูนย์บริการ 3 แห่ง โดยมีผลิตภัณฑ์เพียง 2 รุ่นคือ 3008 และ 5008 และจะมีการเปิดตัวรุ่น 2008 ในปีนี้

ยอร์ก บรอยเออร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปอโยต์ ประเทศไทย เผยว่า

ปี 2020 เป็นปีที่ท้าทาย หลายปีที่ผ่านมาประเทศไทยเจอปัญหามากมายทั้ง สงครามการค้า ปัญหาเศรษฐกิจ ความมั่นใจของลูกค้า แต่วันนี้สถานการณ์ต่างๆ ดีขึ้น ลูกค้ามีความมั่นใจมากขึ้น และประสบการณ์ 20 ปี ของ GMC Asia เองก็จะช่วยให้ดีลเลอร์ในเขตกรุงเทพฯ ไปได้ดี

รถทั้งสองรุ่นอย่าง Peugeot 3008 และ 5008 ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้าตั้งแต่เปิดตัว โดยที่ไม่มีกิจกรรมหรือการทดสอบขับขี่ใดๆ ด้วยความโดดเด่นแตกต่าง ทำให้เป็นที่สนใจของกลุ่มลูกค้าที่อยากได้รถพรีเมี่ยม ในราคารถระดับกลาง ที่สำคัญคือแตกต่าง

คาดว่าปัจจุบันมีฐานลูกค้าใประเทศไทยรวมทั้งเก่าใหม่ราว 2,000 คัน ซึ่ง Peugeot นั้นรับดูแลลูกค้าทั้งหมดโดยไม่มีเงื่อนไข

การดูแลนั้นครอบคลุมทุกส่วนไม่ว่าจะการเซอร์วิสหรืออะไหล่ ส่วนเรื่องดีลเลอร์ในต่างจังหวัดนั้นยังอยู่ระหว่างการพูดคุย ยังไม่มีการยืนยันในตอนนี้

ในแง่ของการเปิดตัวแทนจำหน่าย ทาง Peugeot ยืนดีที่จะร่วมงานกับอดีตดีลเลอร์ที่มีพื้นที่และพื้นฐานที่ดีอยู่แล้ว อย่างกรณีดีลเลอร์เก่าของ Chevrolet ที่มีศักยภาพในการดูแลลูกค้าที่ดี ฐานลูกค้าที่ดี มีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ก็เป็นสถานการณ์ที่โอเคกับทั้งสองฝ่าย

“เราคือ New Niche” คือสิ่งที่ผู้บริหาร Peugeot ให้คำนิยามกับแบรนด์ในตอนนี้ ด้วยความที่เป็นเหมือนน้องใหม่ที่กลับมาในตลาด แต่เชื่อมั่นว่าตลาดไทยมีศักยภาพ

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก: ผลกระทบจาก Fed, ราคาน้ำมัน

ตลาดหุ้นทั่วโลกประสบกับการปรับตัวลดลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ภายใต้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันพบกับความผันผวน โดยมีการเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อน และลดลงในวันที่ 8 เมษายน หลังการเจรจาหยุดยิงในตะวันออกกลาง ทองคำก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน เหตุการณ์แผ่นดินไหวในไต้หวันส่งผลกระทบจำกัดต่ออุตสาหกรรมผลิตชิป และตลาดหุ้นจีนได้รับประโยชน์จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด เงินเฟ้อในยุโรปก็แสดงถึงการลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่การลดดอกเบี้ยจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในเดือนมิถุนายน ด้านผู้จัดการกองทุนต่างคาดการณ์ว่าตลาดโดยรวมจะแกว่งตัวตามข้อมูลเงินเฟ้อและผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐฯ ภาพรวมตลาดที่ผ่านมาแกว่งตัวในแนวข้าง...
- Advertisement -

More Articles Like This