The Sphere สิ่งก่อสร้างทรงกลมที่ใหญ่ที่สุดในโลก

Must Read

เพื่อนๆ สายท่องเที่ยวต้องมารวมกันทางนี้ เพราะครั้งนี้เรากำลังจะพาคุณมารู้จัก “The Sphere” สิ่งก่อสร้างทรงกลมที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ลาสเวกัส ติดจอ LED ใหญ่ถึง 54,000 ตร.ม. ซึ่งกลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของเมืองนี้ ใครสนใจก็ตามมาอ่านรายละเอียดที่ด้านล่างนี้กันเลย

สรุปข้อมูลและรายละเอียดที่น่าสนใจของ The Sphere ได้ดังนี้

  • ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ได้มีการเปิดตัว “เดอะ สเฟียร์” (The Sphere) อาคารทรงกลม (Shperical building) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มาร่วมฉลองวันชาติแก่สายตาทุกคนด้วยคำว่า “เฮลโล่ เวิลด์”

  • โดยที่เดอะ สเฟียร์ หรือชื่อทางการว่า แมดิสัน สแควร์ การ์เดน สเฟียร์ (Madison Square Garden Sphere) มีบริษัท สเฟียร์ เอนเตอร์เทนเมนต์ กรุ๊ป (Sphere Entertainment Group) เป็นเจ้าของ ด้วยงบลงทุนประมาณ 2,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 80,000 ล้านบาท ตั้งอยู่กลางย่านพาราไดซ์ ในลาสเวกัส (Las Vegas) รัฐเนวาดา เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี 2018 และคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในเดือนกันยายนปีนี้

  • ตัวอาคารมีความสูง 111 เมตร กว้าง 157 เมตร โดยมีจุดเด่นที่สำคัญที่สุดก็คือภายนอกของตัวอาคาร ที่นำเอาไฟแอลอีดีกลม หรือแอลอีดี ปั๊ก (LED Puck) ที่ภายในจะประกอบไปด้วยหลอดแอลอีดี 48 ตัว มาเรียงคลุมรอบทั้งอาคารกว่า 1,200,000 ชุด กลายเป็นหน้าจอแอลอีดีที่มีพื้นที่กว่า 580,000 ตารางฟุต หรือเกือบ 54,000 ตารางเมตร รองรับการออกคำสั่งเพื่อให้แสดงผลเสมือนเป็นหน้าจอได้

  • ทางบริษัทได้ทำการทดสอบการแสดงผลหน้าจอทรงกลมยักษ์ด้วยการป้อนคำสั่งให้แสดงผลคำว่า “เฮลโล่ เวิลด์” (Hello World) หรือสวัสดีชาวโลก ซึ่งเป็นคำสั่งทดสอบยอดนิยมในเหล่านักเขียนโปรแกรม พร้อมแสดงภาพเคลื่อนไหวเป็นลวดลายต่าง ๆ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองวันชาติของสหรัฐฯ

  • ทางบริษัทตั้งใจออกแบบให้เดอะ สเฟียร์เป็นศูนย์กลางความบันเทิงในลาสเวกัส มีส่วนลานจัดแสดงที่จุผู้ชมได้ 17,600 ที่นั่ง หรือสูงสุดประมาณ 20,000 คน หากรวมพื้นที่สำหรับผู้ยืน รองรับงานแสดงดนตรี มวย หรือศิลปะการต่อสู้ต่าง ๆ โดยมียูทู (U2) วงดนตรีร็อกชื่อดังของสหรัฐฯ จองพื้นที่เพื่อจัดแสดงในวันเปิดตัวของอาคารในเดือนกันยายนนี้ด้วย

  • นอกจากนี้ ในส่วนที่นั่งกว่า 10,000 ที่นั่ง จะได้รับประสบการณ์การชมแบบ 4 มิติ ที่ผสานการรับความรู้สึกต่าง ๆ คล้ายกับในโรงภาพยนตร์ เช่น ไอเย็นที่ถูกพ่นออกมา การเปลี่ยนสภาพอากาศภายใน หรือแม้แต่กลิ่นที่เกิดขึ้นตามเหตุการณ์ในการแสดง โดยเดอะ สเฟียร์ จะมีระบบกล้องบันทึกภาพที่ลานความละเอียด 18K อัตรารีเฟรชภาพ 120 เฟรมต่อวินาที รวมถึงมีหน้าจอแอลอีดีแบบแขวนเพดานความละเอียด 16K ตามจุดต่าง ๆ รวมพื้นที่กว่า 160,000 ตารางฟุต หรือเกือบ 15,000 ตารางเมตร แต่รายละเอียดอื่น ๆ ทางบริษัทยังไม่ได้เปิดเผยในตอนนี้

  • อย่างไรก็ตาม ทั้งหน้าจอภายใน ไฟที่สั่งการได้ภายนอกอาคาร รวมถึงรูปแบบการใช้งานอาคารนี้ได้กลายเป็นข้อถกเถียงถึงปัญหามลภาวะทางเสียงและสายตาของบริเวณโดยรอบหรือไม่ และข้อวิตกเหล่านี้ได้ทำให้โครงการของบริษัทกลางกรุงลอนดอนของอังกฤษต้องหยุดชะงักลงไป และในสหรัฐฯ ก็มีการเรียกร้องให้รัฐบาลท้องถิ่นออกมาแทรกแซงและจัดการปัญหานี้ แต่ในขณะเดียวกัน โครงการนี้ก็เป็นการสร้างแลนด์มาร์กแห่งใหม่ในลาสเวกัส เมืองที่ไม่เคยหลับไหลกลางทะเลทรายของสหรัฐฯ เช่นกัน

และนี่ก็คือ The Sphere แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของเมืองลาสเวกัสที่เราอยากแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้จักในในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นที่ชื่นชอบถูกใจของสายเที่ยวกันทุกคน ดังนั้นหากคุณมีโอกาสก็อย่าลืมแวะไปเยี่ยมชมแลนด์มาร์คใหม่แห่งนี้กัน

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก: ผลกระทบจาก Fed, ราคาน้ำมัน

ตลาดหุ้นทั่วโลกประสบกับการปรับตัวลดลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ภายใต้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันพบกับความผันผวน โดยมีการเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อน และลดลงในวันที่ 8 เมษายน หลังการเจรจาหยุดยิงในตะวันออกกลาง ทองคำก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน เหตุการณ์แผ่นดินไหวในไต้หวันส่งผลกระทบจำกัดต่ออุตสาหกรรมผลิตชิป และตลาดหุ้นจีนได้รับประโยชน์จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด เงินเฟ้อในยุโรปก็แสดงถึงการลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่การลดดอกเบี้ยจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในเดือนมิถุนายน ด้านผู้จัดการกองทุนต่างคาดการณ์ว่าตลาดโดยรวมจะแกว่งตัวตามข้อมูลเงินเฟ้อและผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐฯ ภาพรวมตลาดที่ผ่านมาแกว่งตัวในแนวข้าง...
- Advertisement -

More Articles Like This