โตชิบายิ้มหลังเลือกตั้งตลาดโน้ตบุ๊กไทยส่อแววขยายตัวชัดเจน ระบุบริษัทวิจัยระดับโลกไอดีซีปรับเพิ่มตัวเลขประมาณการณ์ยอดจำหน่าย ‘คอมพิวเตอร์วางตัก’ ในประเทศไทยประจำปี 2554 จากเดิม 2.4 ล้านเครื่องมาเป็น 2.5 ล้านเครื่อง (ไม่รวมแท็บเล็ต) ชี้แนวโน้มโครงการไอทีเพื่อการศึกษาจะเป็นแรงดันหลักให้ตลาดคอมพ์พกพาไทย ขยายตัวมากขึ้น เช่นเดียวกับเทคโนโลยีใหม่สเปกแรงที่จะช่วยดึงให้ผู้บริโภคจับจ่ายซื้อ คอมพิวเตอร์มากกว่าเดิม นายถกล นิยมไทย ผู้จัดการประจำประเทศไทย ฝ่ายธุรกิจเทคโนโลยี บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ กล่าวระหว่างการเปิดตัว Qosmio F750 คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 3 มิติไร้แว่นตารุ่นแรกของโลกจากโตชิบาว่า ยอดจำหน่ายรวมโน้ตบุ๊กในประเทศไทยปี 2554 จะอยู่ที่ 2.5 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาเกินกว่า 20% และเป็นการปรับเพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดว่าจะมีประมาณ 2.4 ล้านเครื่อง “ส่วนหนึ่งที่เพิ่มขึ้นเพราะรัฐบาลใหม่มีโครงการนำเทคโนโลยี มาใช้ร่วมกับการศึกษาที่ชัดเจน ทำให้ตลาดตื่นตัวมากขึ้น ส่วนตลาดพรีเมี่ยมก็ดีขึ้นด้วยเพราะคุณสมบัติหรือสเปกเครื่องที่เพิ่มขึ้น และสอดคล้องกับเทรนด์ผู้บริโภค” ***3 มิติไม่ง้อแว่น สำหรับ Qosmio F750 ที่โตชิบาเปิดตัวล่าสุดนี้คือ โน้ตบุ๊ก 3 มิติไร้แว่นตาที่ถูกการันตีว่าสามารถดูภาพทั้งแบบ 2 มิติ และ 3 มิติพร้อมกัน โดยโตชิบาระบุว่า Qosmio F750 จะมาพร้อมหน้าจอแบบ ‘lenticular’ ซึ่งสามารถทำให้เกิดภาพ 3 มิติสำหรับตาแต่ละข้างของผู้ชมได้โดยไม่ต้องใส่แว่นตา จุดนี้โตชิบาระบุว่าหน้าจอของ F750 จะมีกล้องเว็บแคมที่ทำให้ระบบสามารถตรวจจับความเคลื่อนไหวของดวงตาผู้ใช้ได้ ซึ่งระบบจะสามารถปรับคุณสมบัติ 3 มิติสำหรับตาแต่ละข้างที่มีตำแหน่งเปลี่ยนไป แต่มีข้อแม้ว่าภาพ 3 มิติตาเปล่านี้จะสามารถชมได้คนเดียว ถือว่าเป็นจุดอ่อนสำคัญของ Qosmio F750 ที่น่าสนใจคือ ภาพยนตร์และเกม 2 มิติก็สามารถถูกแปลงเป็นภาพ 3 มิติได้บน Qosmio แม้จะไม่แนบเนียนเท่าคอนเทนท์ 3 มิติของจริง ทั้งหมดจะเปิดให้ผู้ใช้ชาวไทยทดสอบที่งานคอมมาร์ต ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้น 21-24 กรกฎาคมนี้ นายสุธี วงศ์วัฒนากุล ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กโตชิบา ระบุว่าการผลิตโน้ตบุ๊กที่ใช้หน้าจอที่ชมภาพ 3 มิติโดยไม่ต้องใช้แว่นตานั้นมีต้นทุนสูงมากกว่าตัวแว่นตาซึ่งมีราคาราว 3-4 พันบาท จุดนี้เชื่อว่านักเล่นเกมจะได้รับประโยชน์เนื่องจากไม่ต้องใส่แว่นพร้อมกับ สวมหูฟัง โดยโตชิบาคาดว่าจะสามารถจำหน่ายได้ราว 500 เครื่องต่อเดือน อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารโตชิบายอมรับว่า ตลาดโน้ตบุ๊ก 3 มิตินั้นยังมีส่วนแบ่งที่น้อยกว่า 1% เมื่อเทียบกับตลาดคอมพิวเตอร์พกพารวม ทำให้ราคาเครื่องมีมูลค่าสูงกว่าโน้ตบุ๊กปกติถึง 2 เท่าตัว จุดนี้ถกลเชื่อว่าจะต้องใช้เวลาอีก 1-2 ปี ราคาโน้ตบุ๊ก 3 มิติจึงจะลดลง จนมีสัดส่วนราคาสูงกว่าโน้ตบุ๊กทั่วไปราว 10-30% และมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 5% “เรื่อง 3 มิติตอนนี้ยังเป็นเกมและภาพยนตร์เป็นหลัก เราจะทำตลาด Qosmio F750 ที่วัยรุ่นซึ่งมีกำลังซื้อ เช่น นักเรียนนานาชาติ และมหาวิทยาลัย ขณะนี้ร่วมมือกับผู้ผลิตเกม 3 มิติแล้ว และกำลังเจรจากับผู้ผลิตภาพยนตร์ในประเทศไทย” สำหรับปีนี้ โตชิบามีกำหนดเปิดตัวคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 3 มิติ 3 รุ่นในตระกูล Qosmio โดยช่วงครึ่งปีหลังจะเปิดตัวแท็บเล็ตเทคโนโลยี 3 มิติ ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ในขณะนี้ ถกลระบุว่าไตรมาส 1 ปีการเงิน 2554 ที่ผ่านมาของโตชิบา (เมษายน-มิถุนายน) โตชิบาสามารถครองส่วนแบ่งตลาดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กได้ราว 6-7% เป็นอันดับ 5 ของตลาด ผลพวงจากพิษสึนามิที่ประเทศญี่ปุ่นทำให้ค่ายคู่แข่งอย่างเอซุสและเดลล์แซง หน้าไป คาดว่าปลายเดือนสิงหาคมนี้ โตชิบาจะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดได้เป็น 10% และจะเพิ่มเป็น 15% ขึ้นเป็น 1 ใน 3 ค่ายโน้ตบุ๊กโลกภายในปี 2012 Company Related Link : Toshiba