Toyota Glanza รถแฮทช์แบ็ค ประหยัดน้ำมัน 22.3 กม./ลิตร ทำตลาดอินเดียแล้ว

Must Read

ใครที่กำลังอยากได้รถยนต์ใหม่ ราคาประหยัดต้องมารวมกันทางนี้ เพราะครั้งนี้เรากำลังจะแนะนำให้คุณได้รู้จัก Toyota Glanza รถแฮทช์แบ็ค ประหยัดน้ำมัน 22.3 กม./ลิตร ราคาเริ่ม 279,000 บาท ใครสนใจก็ตามมาดูรายละเอียดที่ด้านล่างนี้เลย

สรุปข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับรถยนต์ Toyota Glanza ได้ดังนี้

  • จากที่มีการเปิดตัว Toyota Glanza รถยนต์แฮทช์แบ็ค 5 ประตูรุ่นใหม่ในอินเดีย เป็นที่แรกอย่างเป็นทางการไปก่อนหน้านี้ มันก็ได้สร้างกระแสความฮือฮาเป็นอย่างมาก กับสเปคของตัวรถ เมื่อเทียบกับราคาเปิดตัวที่เอื้อมถึงได้ง่ายๆ
  • ทางด้านขุมกำลังของตัวรถจะมาในพิกัด 1,197cc แบบ 4 สูบ ให้แรงม้าสูงสุด 89PS ที่ 6,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 114 Nm ที่ 4,400 รอบต่อนาที เคลมอัตราการประหยัดน้ำมันได้สูงสุด 22.35 กม. / ลิตร (สำหรับรุ่นเกียร์ธรรมดา) และ 22.94 กม. / ลิตร (สำหรับรุ่นเกียร์อัตโนมัติ) โดยถังน้ำมันจะมีความจุอยู่ที่ 37 ลิตร
  • ระบบช่วงล่างด้านหน้าตัวรถ จะเป็นแบบแมคเพอร์สัน สตรัทช์ ส่วนด้านหลังจะเป็นแบบทอร์ชั่นบีม ระบบเบรกด้านหน้าจะเป็นแบบดิสก์เบรก ส่วนด้านหลังจะเป็นแบบดรัมเบรก ส่วนฟีเจอร์ทางด้านความปลอดภัยจะประกอบไปด้วย ระบบเบรก ABS / EBD, ระบบช่วยในการทางตัว ESP, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน. ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ, ระบบแจ้งเตือนความเร็ว, ระบบ Immobilizer, Air Bag
  • ฟีเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจจะประกอบไปด้วย ระบบหน้าจอแสดงผล TFT Tachometer display แสดงค่าต่างๆ ที่จำเป็นอย่างครบครัน, หน้าจอ Head Up Display, ระบบ Toyota i-Connect สำหรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ที่จะช่วยเหลือทางด้านต่างๆ เช่นการล็อกและปลดล็อก ระบบไฟ ค้นหาตำแหน่งของตัวรถ ฯลฯ

Toyota Glanza ที่เปิดตัวในอินเดียนั้น จะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่เพียงประมาณ 279,000 บาทเท่านั้นเมื่อแปลงเป็นเงินไทย และรุ่นท็อปสุดก็จะอยู่ที่ประมาณ 424,000 บาทเท่านั้น ส่วนมันจะเข้ามาทำตลาดในบ้านเราด้วยหรือไม่นั้น ก็คงต้องรอติดตามกันต่อไป

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก: ผลกระทบจาก Fed, ราคาน้ำมัน

ตลาดหุ้นทั่วโลกประสบกับการปรับตัวลดลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ภายใต้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันพบกับความผันผวน โดยมีการเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อน และลดลงในวันที่ 8 เมษายน หลังการเจรจาหยุดยิงในตะวันออกกลาง ทองคำก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน เหตุการณ์แผ่นดินไหวในไต้หวันส่งผลกระทบจำกัดต่ออุตสาหกรรมผลิตชิป และตลาดหุ้นจีนได้รับประโยชน์จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด เงินเฟ้อในยุโรปก็แสดงถึงการลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่การลดดอกเบี้ยจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในเดือนมิถุนายน ด้านผู้จัดการกองทุนต่างคาดการณ์ว่าตลาดโดยรวมจะแกว่งตัวตามข้อมูลเงินเฟ้อและผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐฯ ภาพรวมตลาดที่ผ่านมาแกว่งตัวในแนวข้าง...
- Advertisement -

More Articles Like This