Twitter ประกาศแผนจัดระเบียบจักรวาลทวิตเตอร์ครั้งใหม่

Must Read

Jiradech Suchada
Jiradech Suchadahttps://www.itmoamun.com/
การตลาดออนไลน์ เทคโนโลยี ธุรกิจ Passive Income ทำตัวเป็น Blogger แถมกด Shutter รัวๆ แล้วออกไปปั่นๆ พร้อมทั้งเก็บเป็นเรื่องราวดีๆผ่านพื้นที่ตรงนี้ออกมาเป็นบทความ รูปภาพ วิดีโอ แบบเล่าสู่กันฟัง อย่าลืมมาติดตามกันนะครับ

Twitter Birds

ผู้ให้บริการเครือข่ายสังคมไมโครบล็อกกิ้งอย่างทวิตเตอร์ (Twitter) ประกาศแผนจัดระเบียบจักรวาลทวิตเตอร์ครั้งใหม่ เปิดเกมควบคุมนักพัฒนาซอฟต์แวร์อิสระที่สร้างแอปฯ เสริมสำหรับใช้งานกับทวิตเตอร์มากขึ้น นักวิเคราะห์เชื่อต้องการปิดทางไม่ให้แอปฯ เสริมที่ไม่ได้รับการรับรองจากทวิตเตอร์สามารถทำตลาดได้ และยังลงมาควบคุมการเติบโตของโปรแกรมเสริมทวิตเตอร์มากขึ้น ทวิตเตอร์ออกประกาศในบล็อกของตัวเองเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื้อหาว่าด้วยกฎระเบียบใหม่ที่บริษัทต้องการพัฒนาโปรแกรมเสริมสำหรับผู้ใช้ทวิตเตอร์จะต้องปฏิบัติตาม โดยกฎใหม่ทั้งหมดนี้ถูกวิเคราะห์ว่าจะไม่ส่งผลถึงผู้ใช้ทวิตเตอร์ในทันที แต่จะมีผลถึงผู้ใช้ทวิตเตอร์รายใหม่ในอนาคตที่จะใช้งานโปรแกรมเสริมอย่าง Tweetbot หรือ Twicca รวมถึงแอปฯ อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับทวิตเตอร์ แต่ไม่ได้ผลิตโดยทวิตเตอร์ หนึ่งในกฎใหม่ของทวิตเตอร์ระบุว่า จะอนุญาตให้ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์อิสระซึ่งสร้างแอปฯ บนทวิตเตอร์สามารถมีผู้ใช้ได้สูงสุด 100,000 คนเท่านั้น ยกเว้นว่าจะได้รับอนุญาตจากทวิตเตอร์ ส่วนแอปฯ ที่ได้รับความนิยมอยู่แล้วและมีผู้ใช้มากกว่า 100,000 คนจะสามารถรับผู้ใช้ได้เพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว ซึ่งทวิตเตอร์จะพิจารณาให้เพิ่มจำนวนผู้ใช้ได้เป็นกรณีไป แน่นอนว่ากฎใหม่ของทวิตเตอร์นำไปสู่การวิจารณ์ต่างๆ นานา ทั้งจากมุมผู้ใช้ทวิตเตอร์และนักพัฒนาซอฟต์แวร์ โดยชาวทวิตเตอร์จำนวนหนึ่งโพสต์ข้อความต่อต้านทวิตเตอร์ที่ออกกฎสวนทางกับความอิสระที่ข้อมูลดิจิตอลควรจะเป็น แถมยังมีการเหน็บแนบว่ากฎใหม่ของทวิตเตอร์นั้นเข้มงวดกว่าประเทศเผด็จการอย่างเกาหลีเหนือเสียอีก ที่ผ่านมาชาวทวิตเตอร์จำนวนไม่น้อยเลือกใช้บริการแอปฯ เสริมจากบริษัทอื่นเพื่อรับและส่งข้อความสู่ทวิตเตอร์อย่างสะดวกสบายขึ้นกว่าที่ทวิตเตอร์ให้บริการ กระทั่งปี 2011 ทวิตเตอร์เริ่มเพิ่มความสามารถเพื่อให้ผู้ใช้ไม่ต้องหันไปใช้งานแอปฯ เสริมอย่างที่เคยเป็นมา กรณีที่เห็นชัดคือการเปิดคุณสมบัติแชร์ภาพอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว ซึ่งทำให้ชาวทวิตเตอร์ไม่ต้องใช้บริการจากบริษัทอื่นอย่าง Twitpic และ Yfrog การเพิ่มความสามารถด้านภาพในทวิตเตอร์เกิดขึ้นเพียง 1 เดือนหลังจากทวิตเตอร์ตกเป็นข่าวว่าได้ตัดสินใจเซ็นสัญญาซื้อแอปฯ เสริมด้านจัดการการแสดงผลและส่งข้อความทวีตนามว่า TweetDeck TweetDeck นั้นเป็นโปรแกรมอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้พีซีสามารถอ่านและทวีตข้อความได้โดยไม่ต้องคลิกเปิดหน้าเว็บไซต์ทวิตเตอร์ให้ยุ่งยาก ความนิยมที่แพร่หลายของ TweetDeck ทำให้โลกพร้อมใจจับตามองเมื่อมีข่าวว่าบริษัทไอทีหลายค่ายพร้อมใจทุ่มเงินซื้อ TweetDeck ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา กระทั่งสำนักข่าว TechCrunch อ้างแหล่งข่าววงในว่า TweetDeck ถูกทวิตเตอร์ซื้อไปในราคา 40-50 ล้านเหรียญ ซึ่งไม่มีการประกาศยืนยันใดๆ ตามมา ทั้งหมดนี้ ทวิตเตอร์ถูกมองว่ากำลังพยายามควบคุมแพลตฟอร์มของตัวเองให้มากขึ้นเพื่อแปลงร่างตัวเองให้เป็นบริษัทดิจิตอลมีเดียทรงพลังที่จะสามารถทำรายได้จากโฆษณาได้มากขึ้น ซึ่งชาวโลกเชื่อว่าทวิตเตอร์จะต้องปรับนโยบายอื่นๆ อีกในอนาคตเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ รายงานระบุว่า ทวิตเตอร์กำลังปรับตัวและออกนอกกรอบที่จำกัดเฉพาะ “ข้อความยาว 140 ตัวอักษร” และการออกกฎใหม่นี้สะท้อนว่าทวิตเตอร์เชื่อว่าการบริการคอนเทนต์อินเตอร์แอ็กทีฟมากขึ้นจะเป็นตัวช่วยให้ทวิตเตอร์สามารถนำเสนอโฆษณาที่ดีกว่าได้ แต่มีข้อแม้ว่าผู้ใช้จะต้องใช้แอปฯ ที่ได้รับการควบคุมอย่างเป็นทางการในการเข้าสู่ทวิตเตอร์เท่านั้น ซึ่งปัญหาคือทวิตเตอร์นั้นเป็นศูนย์กลางของนักพัฒนาซอฟต์แวร์อิสระจำนวนมาก เช่นเดียวกับผู้ใช้หลายคนที่ชื่นชอบโปรแกรมเสริมอย่าง Hootsuite, Uber และ Tweetbot มากกว่าผลิตภัณฑ์ของทวิตเตอร์เอง กฎใหม่ของทวิตเตอร์จึงถูกวิจารณ์ในวงกว้างว่า ทวิตเตอร์ต้องการแทรกแซงแอปฯ เสริมที่แข็งแกร่งและได้รับความนิยมอย่างจงใจ ขณะเดียวกันก็ไม่ต้องการให้แอปฯ เสริมรายใหม่เข้ามาทำตลาดโดยไม่มีการควบคุม อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่ได้สร้างความประหลาดใจในโลกออนไลน์ โดยเดือน ก.ค.ที่ผ่านมาทวิตเตอร์เคยให้สัญญาณถึงการจัดระเบียบแพลตฟอร์มดังกล่าวแล้ว แต่ยังไม่ได้ให้รายละเอียดอย่างเป็นทางการเช่นนี้  

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

เผยรายงานคนไทยเผชิญ SMS หลอกลวงมากสุดในเอเชียปี 2566 จาก Whoscall

ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลเป็นสิ่งที่ไหลเวียนได้รวดเร็วที่สุด ประเด็นเรื่องความปลอดภัยสารสนเทศก็เป็นหัวข้อที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงอย่างต่อเนื่อง Whoscall, แอปพลิเคชั่นชั้นนำที่ช่วยในการระบุตัวตนของสายเรียกเข้าไม่ที่รู้จักและการป้องกันข้อความสแปม, ได้เปิดเผยรายงานประจำปี 2566 ที่แสดงให้เห็นว่าคนไทยตกเป็นเหยื่อของ SMS หลอกลวงมากกว่าใครในเอเชียด้วยจำนวนถึง 58 ล้านข้อความ แม้ว่าในภูมิภาคเอเชียโดยรวมจะพบว่าการหลอกลวงมีแนวโน้มลดลงจากการทำงานร่วมกันของภาครัฐและภาคเอกชน แต่ในประเทศไทยกลับพบว่ามีการเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ การหลอกลวงเหล่านี้รวมถึงการส่งข้อความที่มีลิงก์ปลอม, การหลอกลวงเกี่ยวกับการลงทุนและเว็บพนัน และการใช้ชื่อของหน่วยงานรัฐในการหลอกลวง การรายงานจาก Whoscall ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการรับข้อมูล พวกเขายังได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบ URL...
- Advertisement -

More Articles Like This