Windows Blue กลับมามีปุ่ม Start อีกครั้งในเวอร์ชั่นใหม่จาก Microsoft

Must Read

Jiradech Suchada
Jiradech Suchadahttps://www.itmoamun.com/
การตลาดออนไลน์ เทคโนโลยี ธุรกิจ Passive Income ทำตัวเป็น Blogger แถมกด Shutter รัวๆ แล้วออกไปปั่นๆ พร้อมทั้งเก็บเป็นเรื่องราวดีๆผ่านพื้นที่ตรงนี้ออกมาเป็นบทความ รูปภาพ วิดีโอ แบบเล่าสู่กันฟัง อย่าลืมมาติดตามกันนะครับ

Windows Blue กลับมามีปุ่ม Start ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ถูกร่ำลือว่ากำลังสร้างระบบปฏิบัติการ Windows 8 เวอร์ชันใหม่ที่มีจุดเด่นเรื่องการเปิดให้ผู้ใช้เลือกบูตเครื่องเริ่มใช้งานในหน้าอินเทอร์เฟสวินโดวส์แบบดั้งเดิม แทนที่จะเป็น Start Screen หน้าจอที่ไมโครซอฟท์เรียกว่าสไตล์ Metro หรือตารางช่อง 4 เหลี่ยมหลายสีที่คอมพิวเตอร์พีซีและแท็บเล็ตวินโดวส์ 8 ปัจจุบันใช้งานอยู่ ทั้งหมดนี้ผู้ใช้ Windows 8.1 หรือที่ถูกเรียกว่า Windows Blue จะสามารถเลือกหน้าอินเทอร์เฟสหลังบูตเครื่องได้ตามต้องการ Windows 8 เป็นระบบปฏิบัติการวินโดวส์เวอร์ชันใหม่ที่ไมโครซอฟท์เปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว จุดนี้สำนักข่าวเดอะเวิร์จ (The Verge) รายงานว่าไมโครซอฟท์จะเปิดตัว Windows Blue รุ่นปรับปรุงใหม่ภายในปีนี้ ตามวงจรการทำตลาดผลิตภัณฑ์ระบบปฏิบัติการที่ไมโครซอฟท์เคยประกาศไว้ รายงานของเดอะเวิร์จมีบางส่วนสอดคล้องกับแถลงการณ์ของไมโครซอฟท์ที่ระบุเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ครั้งนั้นไมโครซอฟท์ระบุว่าพนักงานของไมโครซอฟท์กำลังร่วมกันพัฒนาและยกระดับ “บริการและอุปกรณ์ของไมโครซอฟท์” โดยให้ข้อมูลว่าโครงการดังกล่าวถูกเรียกว่า ‘Blue’ แต่ยังไม่มีการยืนยันว่าเป็น Windows Blue หรือไม่ สำหรับ Windows Blue สื่อออนไลน์บางแห่งอ้างข้อมูลจากการลงทะเบียนทดลองใช้งาน Windows 8.1 ว่าตัวเลือกสำหรับการเลือกวิธีบูตเครื่องเป็นรูปแบบวินโดวส์ดั้งเดิมจะมีชื่อว่า ‘CanSuppressStartScreen’ option โดยรูปแบบอินเทอร์เฟสสไตล์ Metro ใน Windows 8 จะยังเป็นค่าเริ่มต้นหรือ default ใน Windows Blue และผู้ใช้จะต้องคลิกเลือก option ตามต้องการ ทั้งหมดนี้สะท้อนว่าไมโครซอฟท์ไม่มีเจตนาทิ้งอินเทอร์เฟสรูปแบบใดไป เนื่องจากอินเทอร์เฟสรูปแบบ Metro ซึ่งสร้างมาเพื่อ Windows 8 นั้นสามารถตอบโจทย์ผู้ใช้อุปกรณ์หน้าจอทัชสกรีนได้ดี ขณะที่อินเทอร์เฟสวินโดวส์ดั้งเดิมสามารถตอบโจทย์ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ผ่านเมาส์และคีย์บอร์ดได้จริง นอกจากคุณสมบัติการเลือกรูปแบบหน้าจอเมื่อบูตเครื่อง คาดว่า Windows Blue สามารถเปิดแอปพลิเคชันจากแถบเครื่องมือหรือ side bar ด้านล่างและด้านข้าง แถมยังสามารถสนับสนุนการทำงานหลายหน้าต่างหรือ multitasking มากขึ้น โดยผู้ใช้สามารถปรับขนาดและสีสันของช่อง 4 เหลี่ยมหรือ Live Tile ได้หลากหลายยิ่งขึ้น รูปแบบอินเทอร์เฟสดั้งเดิมของวินโดวส์นั้นถูกเปิดตัวครั้งแรกในปี 1985 ซึ่งเป็นปีที่ไมโครซอฟท์พัฒนาส่วนติดต่อผู้ใช้งานแบบรูปภาพกราฟฟิกมาครอบระบบปฏิบัติการ MS-DOS ไว้ นับแต่นั้น ไมโครซอฟท์พัฒนาปรับปรุงอินเทอร์เฟสให้ดูเรียบร้อยน่าใช้งานมากขึ้นจนกระทั่งคลอดรูปแบบ Windows Aero ในปี 2007 โดยแจ้งเกิดผ่านระบบปฏิบัติการ Windows Vista ก่อนจะพัฒนาต่อเนื่องใน Windows 7 ที่เปิดตัวในปี 2009 สำหรับปุ่ม start ไมโครซอฟท์ริเริ่มนำปุ่ม Windows Start มาใช้ครั้งแรกในโปรแกรม Windows 95 ซึ่งเริ่มวางจำหน่ายในเดือนสิงหาคมปี 1995 ครั้งนั้นมีรายงานว่าไมโครซอฟท์ต้องจ่ายเงินหลายล้านเหรียญสหรัฐให้กับวงดนตรี Rolling Stones ที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เพลง Start Me Up เพื่อให้ได้สิทธิใช้ชื่อปุ่มว่า Start ตั้งแต่นั้น ปุ่ม Start ก็อยู่คู่ชาววินโดวส์มาตลอดจนกระทั่งใน Windows 8 ที่มีการบอกลาปุ่ม Start อย่างเป็นทางการ ใน Windows 8 ไมโครซอฟท์ตัด Start menu ทิ้งไปแล้วเปลี่ยนมาเป็นการแสดง Start screen แทน โดยแสดงในรูปหน้าจอพร้อมตารางสีที่ผู้ใช้จะสามารถเลือกโปรแกรมแอปพลิเคชันที่ต้องการได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บางรายกลับไม่ถนัดและต้องการได้ Start Menu กลับมา (Start Menu คือแถบตัวเลือกซอฟต์แวร์แอปพลิเคชันที่ปรากฏทุกครั้งที่กดปุ่ม Start ที่มุมซ้ายล่างของจอภาพ) จึงพยายามติดตั้งซอฟต์แวร์ของบริษัทอื่นที่ออกแบบมาเพื่อคืนเมนู Start Menu สไตล์ Windows 7 ให้กับหน้า Desktop ใน Windows 8 คาดว่าความเปลี่ยนแปลงใน Windows Blue จะมีผลโดยตรงต่อผู้ผลิตซอฟต์แวร์คืนเมนู Start Menu เหล่านี้แน่นอน [code]ที่มา : http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9560000046260 [/code]

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก: ผลกระทบจาก Fed, ราคาน้ำมัน

ตลาดหุ้นทั่วโลกประสบกับการปรับตัวลดลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ภายใต้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันพบกับความผันผวน โดยมีการเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อน และลดลงในวันที่ 8 เมษายน หลังการเจรจาหยุดยิงในตะวันออกกลาง ทองคำก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน เหตุการณ์แผ่นดินไหวในไต้หวันส่งผลกระทบจำกัดต่ออุตสาหกรรมผลิตชิป และตลาดหุ้นจีนได้รับประโยชน์จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด เงินเฟ้อในยุโรปก็แสดงถึงการลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่การลดดอกเบี้ยจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในเดือนมิถุนายน ด้านผู้จัดการกองทุนต่างคาดการณ์ว่าตลาดโดยรวมจะแกว่งตัวตามข้อมูลเงินเฟ้อและผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐฯ ภาพรวมตลาดที่ผ่านมาแกว่งตัวในแนวข้าง...
- Advertisement -

More Articles Like This