Tuesday, November 11, 2025
32.4 C
Bangkok

จีนชี้ NVIDIA ทำผิดกฎหมายแข่งขันทางการค้าในดีล Mellanox — สะเทือนซัพพลายเชนชิป AI และเครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์

สรุปสั้น ๆ (TL;DR)

  • หน่วยงานกำกับดูแลของจีน (SAMR) ระบุผลเบื้องต้นว่า NVIDIA ทำผิดกฎหมายแข่งขันทางการค้าเกี่ยวกับการเข้าซื้อ Mellanox เมื่อปี 2020 และเตรียมเดินหน้าสอบสวนต่อ

  • ดีล Mellanox มูลค่า ~6.9 พันล้านดอลลาร์เป็นหัวใจด้านเครือข่ายความเร็วสูง (InfiniBand/Ethernet) สำหรับคลัสเตอร์ AI/ดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วโลก รวมถึงตลาดจีนด้วย

  • จีนเคย “อนุมัติแบบมีเงื่อนไข” ตั้งแต่ปี 2020 แต่ตอนนี้ชี้ว่า NVIDIA ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดบางประการ จึงเข้าข่ายละเมิดกฎหมายผูกขาด (preliminary finding)

  • โทษที่อาจเกิดขึ้นมีตั้งแต่ปรับเงิน ไปจนถึงกำหนดมาตรการแก้ไขเชิงโครงสร้าง/พฤติกรรม โดยสื่อธุรกิจประเมินว่าโทษปรับตามกฎหมายอาจ “สูงสุดถึง 10% ของยอดขาย” (ตีความตามกรอบ AML ของจีน) แต่ยังไม่ใช่มติลงโทษสุดท้ายในเคสนี้

  • จังหวะประกาศสอดรับบรรยากาศเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ชี้แรงเสียดทานเทคโนโลยียังสูง และ NVIDIA กลายเป็นจุดกดดันสำคัญในห่วงโซ่ AI ของจีน

เกิดอะไรขึ้นแน่ ๆ ?

SAMR ของจีนเปิดเผย “ผลสอบเบื้องต้น” ว่า NVIDIA ละเมิดกฎหมายแข่งขันทางการค้า (anti-monopoly/antitrust) จากกรณีเข้าซื้อกิจการ Mellanox Technologies ซึ่งเป็นผู้เล่นใหญ่ด้านโครงข่ายความเร็วสูงสำหรับศูนย์ข้อมูล โดยการประกาศครั้งนี้ยังไม่ใช่คำวินิจฉัยสุดท้าย แต่เป็นการยืนยันว่า “มีมูล” และจะเข้าสู่กระบวนการสอบสวนเชิงลึกต่อไป

สิ่งที่ทำให้เคสนี้ใหญ่คือ Mellanox เป็นรากฐานเครือข่ายของงานประมวลผล AI/คลัสเตอร์ HPC มาหลายปี การที่จีนหยิบดีลนี้ขึ้นมาตรวจละเอียดย้ำอีกครั้งจึงตีความได้ว่า “ซัพพลายเชน AI” อยู่ในเรดาร์กำกับดูแลแบบใกล้ชิดมากขึ้น ไม่ใช่แค่ตัวชิปเร่งความเร็ว (GPU) แต่รวมถึงชั้นเครือข่าย/อินเตอร์คอนเน็กต์ที่เชื่อมจีพียูเข้าด้วยกันด้วย

ย้อนดีล Mellanox: ทำไมสำคัญกับโลก AI?

  • ตัวตนของ Mellanox: ผู้พัฒนาเทคโนโลยี InfiniBand/Ethernet, อะแดปเตอร์, สวิตช์ และซอฟต์แวร์ด้านเครือข่ายสำหรับศูนย์ข้อมูล/คลาวด์/การเงิน/วิจัยขั้นสูง

  • เสร็จสิ้นดีล: NVIDIA ประกาศเข้าซื้อเดือนมีนาคม 2019 และปิดดีลเมษายน 2020 หลังได้รับอนุมัติจากสหรัฐฯ EU และจีน (แบบมีเงื่อนไข) มูลค่าราว $6.9 พันล้าน

  • ทำไมมีเงื่อนไขในจีน: เพราะเครือข่ายความเร็วสูงถือเป็น “ชิ้นส่วนคอขวด” ของคลัสเตอร์ AI หากผู้เล่นรายเดียวควบทั้งจีพียูและเน็ตเวิร์ก อาจกระทบการแข่งขัน/การเข้าถึงในตลาดจีน SAMR จึงอนุมัติแบบมีข้อกำหนดเพื่อป้องกันการกีดกันคู่แข่งหรือลูกค้า (รายละเอียดเงื่อนไขเชิงเทคนิคไม่ได้เปิดหมดแก่สาธารณะ)

แล้วจีนบอกว่า “ผิด” ตรงไหน?

ในประกาศรอบล่าสุด จีนชี้ว่า NVIDIA ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดบางประการ ของการอนุมัติเมื่อปี 2020 และจึงเข้าข่ายละเมิดกฎหมายแข่งขันทางการค้า โดยขณะนี้ยังอยู่ขั้น preliminary finding และจะมีการสอบสวนเชิงลึก/ขั้นต่อไปเพื่อพิจารณาบทลงโทษหรือมาตรการที่เหมาะสมต่อไป (เช่น ปรับ ปรับเงื่อนไข หรือกำกับพฤติกรรมทางธุรกิจ)

สื่อธุรกิจบางแห่งอธิบายกรอบกฎหมายว่า โทษปรับของคดีผูกขาดในจีนสามารถไปได้ถึง 1–10% ของยอดขายปีที่ผ่านมา แต่ในเคสนี้ ยังไม่มีตัวเลขหรือมติลงโทษที่เป็นทางการ ต้องรอข้อสรุปจาก SAMR อีกครั้ง

ทำไมช่วงเวลานี้ถึงสำคัญ?

ประกาศดังกล่าวออกมาในจังหวะที่สหรัฐ-จีนกำลังพูดคุยเรื่องการค้าและชิปที่ Madrid ทำให้ตลาดมองประเด็นนี้ทั้งในมุมกำกับดูแลและมุม “คันโยกต่อรอง” ทางการค้าไปพร้อมกัน ผลคือความไม่แน่นอนในธุรกิจของ NVIDIA ในจีนยังคงสูง และมีโอกาสที่ลูกค้าจีนจะเร่งหาทางเลือกด้านเครือข่าย/ระบบแทนในบางกรณีเพื่อลดความเสี่ยงระยะยาว

ไทม์ไลน์สั้น ๆ ของเรื่องนี้

ปี/เดือน เหตุการณ์ย่อ
มี.ค. 2019 NVIDIA ประกาศเข้าซื้อ Mellanox (~$6.9B) Wikipedia
เม.ย. 2020 ปิดดีล หลังจีน อนุมัติแบบมีเงื่อนไข และผ่านสหรัฐฯ/สหภาพยุโรป Wikipedia
ธ.ค. 2024 สื่อรายงานว่าจีนเริ่มสืบสวนเชิงผูกขาดต่อดีล Mellanox (รอบใหม่) Engadget
ก.ย. 2025 SAMR แถลงผลเบื้องต้น: พบการละเมิดกฎหมายแข่งขันทางการค้าในดีล Mellanox และจะสอบสวนต่อ Engadget

ผลกระทบที่เป็นไปได้ (มุมมองเชิงธุรกิจ/เทคนิค)

ระยะสั้น (0–6 เดือน)

  • ความไม่แน่นอนต่อ Roadmap การส่งมอบโซลูชันเครือข่าย/ระบบในจีน อาจทำให้โครงการคลัสเตอร์ AI บางส่วนเลื่อน/ปรับสเปก

  • ลูกค้าจีนเพิ่มการกระจายความเสี่ยง (multi-vendor) ทั้งในส่วนสวิตช์/อะแดปเตอร์ และซอฟต์แวร์จัดการเครือข่าย

ระยะกลาง (6–18 เดือน)

  • หากมีมาตรการเชิงพฤติกรรม (behavioral remedies) เช่น เงื่อนไขด้านราคา/การเข้าถึง/ SLA อาจทำให้การแข่งขันในหมวด InfiniBand/Ethernet ในจีนคึกคักขึ้น

  • ผู้ผลิต/พาร์ตเนอร์ท้องถิ่นอาจได้แรงหนุนในการพัฒนาอุปกรณ์/ซอฟต์แวร์เครือข่ายที่ “เข้ากันได้” กับสแตก AI หลากหลายค่าย

ระยะยาว (18 เดือนขึ้นไป)

  • หากมีโทษเชิงโครงสร้าง (เช่น บังคับแยกธุรกิจบางส่วน—เป็นสมมติฐานสุดขอบ) จะเปลี่ยนภูมิทัศน์ตลาดเครือข่ายศูนย์ข้อมูลอย่างมีนัย แต่ยังเร็วเกินไปที่จะสรุป

  • ซัพพลายเชน AI ในจีนอาจยิ่งเน้น self-reliance ทั้งฮาร์ดแวร์ชิปและเครือข่าย

หมายเหตุ: ทั้งหมดนี้คือการวิเคราะห์จากกรอบข่าว “ผลเบื้องต้น” ยังไม่ใช่มติลงโทษสุดท้ายของทางการจีน

แล้วองค์กรในไทยควรจับตาอะไร?

  1. Lead time และสเปกระบบ — โครงการที่ผูกกับสแตกเครือข่ายค่ายเดียว ควรมีแผนสำรอง Multi-Vendor และตรวจสอบความเข้ากันได้ (interoperability) ให้ชัด

  2. งบลงทุนคลัสเตอร์ AI — ความผันผวนของราคา/การจัดสรรอุปกรณ์เครือข่ายอาจเกิดขึ้น ควรล็อกสัญญาจัดซื้อ/บริการหลังการขายให้แน่น

  3. ไลเซนส์/ซอฟต์แวร์จัดการ — ตรวจข้อกำหนดการใช้ในภูมิภาค/การอัปเดตเฟิร์มแวร์ เพราะกรณีกำกับดูแลอาจส่งผลทางอ้อมต่อ cadence ของซอฟต์แวร์

  4. การกำกับดูแลข้อมูล — โครงการที่เกี่ยวข้องกับ cross-border data/AI ควรทบทวนกรอบปฏิบัติตาม (compliance) เพิ่มเติม เผื่อผลข้างเคียงเชิงนโยบาย

คำถามพบบ่อย (FAQ)

Q: ตอนนี้ NVIDIA โดน “ปรับ” แล้วหรือยัง?
A: ยัง—นี่คือผลสอบ “เบื้องต้น” เท่านั้น ทางการจีนยังเดินหน้าสอบสวนต่อและยังไม่ประกาศโทษหรือมาตรการสุดท้ายใด ๆ ณ เวลารายงานข่าว

Q: โทษปรับอาจสูงแค่ไหน?
A: ในกรอบกฎหมายผูกขาดของจีน บทลงโทษอาจตีกรอบสูงสุดถึง 10% ของยอดขาย (ตามการอ้างอิงเชิงกฎหมายของสื่อธุรกิจ) แต่ในคดีนี้ยังไม่มีตัวเลขหรือมติเฉพาะเจาะจง ต้องรอคำสั่งอย่างเป็นทางการ

Q: เรื่องนี้สะท้อนอะไรต่อสงครามเทค?
A: สะท้อนว่ากำกับดูแลของจีนเริ่ม “ไล่ถึงชั้นโครงข่าย” ไม่ใช่แค่ตัวจีพียู และมีมิติทางการค้าร่วมอยู่ด้วย เพราะประกาศออกมาช่วงมีการหารือสหรัฐ-จีนพอดี

มุมมองผู้เขียน

เคส Mellanox เป็น “เส้นเลือดใหญ่” ของ AI สมัยใหม่ การที่จีนขยับเช็กเข้มทำให้ภาพการแข่งขันในตลาดเครือข่ายความเร็วสูงเปลี่ยนทันที ต่อให้ท้ายที่สุดออกมาเป็น “มาตรการเชิงพฤติกรรม” ก็ยังส่งสัญญาณให้ผู้ซื้อระบบวางแผน Multi-Vendor และวาง SLA/Interoperability ให้ชัดเพื่อลดความเสี่ยง ขณะที่ผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายรายอื่น ๆ (รวมถึงสตาร์ทอัพด้านเน็ตเวิร์กในระบบนิเวศ AI) อาจได้แรงหนุนจากความต้องการ “ตัวเลือกสำรอง” มากขึ้น

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

This field is required.

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

Hot this 48 hr.

รัฐบาลสหรัฐฯ ชัตดาวน์ คืออะไร? ทำไมถึงกระทบไปทั่วโลก

หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า “รัฐบาลสหรัฐฯ ชัตดาวน์” (U.S. Government Shutdown) ผ่านตามสื่อต่างประเทศ หรือแม้แต่ในข่าวเศรษฐกิจที่ไทยเองก็ยังรายงานบ่อยๆ แต่หลายคนอาจยังไม่เข้าใจจริงๆ...

DJI Mini 5 Pro เผยราคา–วันวางขายจากข่าวหลุด ล่าสุดถูกใจสายโดรนแน่ ถ้าจริง!

กระแสข่าวหลุดของ DJI Mini 5 Pro เริ่มชัดขึ้นเรื่อย ๆ จนแฟน ๆ...

“Meta Ray-Ban Display” หลุดก่อนงาน Connect: แว่นตาแบบ HUD ที่ใส่แล้วเห็นแผนที่ ข้อความ และ Meta AI บนเลนส์

ถ้าใครกำลังรอของใหม่จาก Meta ปีนี้…มีสัญญาณแรง ๆ มาแล้วจ้า! มีวิดีโปรโมชัน “Meta Ray-Ban Display”...

Topics

แจกเงิน $2,000 จาก Tariffs Trump โว! เงินเหลือใช้หนี้ชาติ? เจาะลึก ‘ปันผลภาษี’ (Tariff Dividend) นี่คือเรื่องจริงหรือแค่เกมหาเสียง?

โคตรปัง หรือแค่ขายฝัน? แกะปม “$2,000 Tariff Dividend” ของ Trump ที่ทำให้ตลาดป่วน   ช่วงนี้ไทม์ไลน์การเงินเดือดปุดๆ...

รัฐบาลสหรัฐฯ ชัตดาวน์ คืออะไร? ทำไมถึงกระทบไปทั่วโลก

หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า “รัฐบาลสหรัฐฯ ชัตดาวน์” (U.S. Government Shutdown) ผ่านตามสื่อต่างประเทศ หรือแม้แต่ในข่าวเศรษฐกิจที่ไทยเองก็ยังรายงานบ่อยๆ แต่หลายคนอาจยังไม่เข้าใจจริงๆ...

ดีล TikTok สไตล์ Trump: สัดส่วนนักลงทุนสหรัฐฯ ครองราว 80% เกมใหม่ของอัลกอริทึม–ดาต้า–คอนเทนต์

ดีลใหญ่ของ TikTok ในสหรัฐฯ กลายเป็น “หนังภาคต่อ” ที่ยืดเยื้อข้ามปี จนล่าสุดมีความคืบหน้าชัดเจนว่าโมเดลใหม่จะให้ “กลุ่มนักลงทุนสหรัฐฯ” เข้ามาถือควบคุมกิจการในสัดส่วน...

Related Articles

Popular Categories

spot_img