เบื่อไหม? บางทีถาม ChatGPT ไปนิดเดียว แต่น้องตอบกลับมาซะยืดยาว แถมชมเราจนน่าขนลุก หรือบางทีก็ตอบสั้นกุดจนดูเหมือนกำลังงอนเราอยู่! ล่าสุด OpenAI เขาเข้าใจหัวอกคนใช้งานแล้วครับ เลยส่งฟีเจอร์เด็ดในส่วนของ Personalization มาให้เรา “จูนนิสัย” ของ AI ได้ละเอียดขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะค่า Warmth (ความอบอุ่น) และ Enthusiasm (ความกระตือรือร้น) ที่จะเปลี่ยนให้การคุยกับ AI กลายเป็นเรื่องสนุกและตรงใจมากขึ้นแบบ 300%
ทำไมต้องปรับ? ในเมื่อของเดิมก็ดีอยู่แล้ว
หลายคนอาจจะคิดว่า “ก็แค่แชตบอท จะเอาอะไรมาก” แต่จริงๆ แล้วโทนเสียง (Tone of Voice) มีผลกับการทำงานมากครับ ลองนึกภาพดู:
-
สายทำงานจริงจัง: ถ้าคุณกำลังทำรายงานส่งเจ้านาย คุณคงไม่อยากได้คำตอบที่มีอีโมจิโปรยปราย หรือภาษาที่ดู “ดีด” เกินไป คุณต้องการความ Professional ที่สรุปมาเป็นข้อๆ ชัดเจน
-
สายคอนเทนต์/ครีเอทีฟ: คุณอาจจะอยากได้ไอเดียที่ดูมีพลัง มีจังหวะการเล่าเรื่องที่สนุกสนาน ไม่ใช่ภาษาทางการที่อ่านแล้วง่วงนอน
-
สายหาเพื่อนคุย/ที่ปรึกษา: บางทีเราก็แค่อยากได้คำแนะนำแบบเป็นกันเอง เหมือนคุยกับพี่ชายหรือเพื่อนสนิทที่คอยให้กำลังใจ ไม่ใช่ AI ที่ตอบแบบกำแพงน้ำแข็ง
ฟีเจอร์ใหม่นี้จึงเข้ามาแก้ปัญหา “ความไม่พอดี” ของ AI ที่บางครั้งก็ดูประดิษฐ์เกินไป หรือบางครั้งก็เย็นชาเกินเหตุครับ
เจาะลึก! ฟีเจอร์ “Add Characteristics” มีอะไรให้เล่นบ้าง?
จากรายงานของ The Verge และ TechCrunch ฟีเจอร์นี้จะอยู่ในเมนูตั้งค่าส่วนตัวของเรา โดยเราสามารถปรับระดับได้ 3 ระดับคือ More (มากขึ้น), Less (น้อยลง) และ Default (ค่าเริ่มต้น) ซึ่งหัวข้อที่น่าสนใจมีดังนี้ครับ:
-
Warm (ความอบอุ่น): ปรับให้ AI ดูเป็นมิตร มีความเป็นมนุษย์มากขึ้น ถ้าเลือก More น้องจะใช้คำพูดที่ถนอมน้ำใจและดูซอฟต์ลงเยอะเลย
-
Enthusiastic (ความคึกคัก): ตัวนี้แหละคือ “ระดับพลัง” ถ้าปรับ More น้องจะดูตื่นเต้นกับคำถามเรามาก ใช้คำขยายความเยอะ แต่ถ้าปรับ Less น้องจะตอบแบบนิ่งๆ สุขุม
-
Emoji (อีโมจิ): ใครรำคาญอีโมจิเยอะๆ หรือใครสายมุ้งมิ้งที่ขาดอีโมจิไม่ได้ ก็มากดปรับตรงนี้ได้เลย ไม่ต้องสั่ง “ห้ามใช้อีโมจิ” ทุกครั้งที่พิมพ์อีกต่อไป
-
Headers & Lists (หัวข้อและลิสต์): อันนี้สวรรค์ของคนชอบอ่านสรุป! ถ้าปรับเป็น More น้องจะพยายามจัดรูปแบบคำตอบให้เป็นหัวข้อชัดเจน อ่านง่าย สบายตา
เทคนิคการจูนแบบ “2 ชั้น” เพื่อผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบ
ความเจ๋งคือเราสามารถใช้งานฟีเจอร์นี้ควบคู่ไปกับ Base style & tone ที่มีอยู่แล้วได้ (เช่น Professional, Candid, Quirky)
-
ชั้นที่ 1: เลือกบุคลิกหลักก่อน (เช่น อยากให้ดูเป็นมืออาชีพ Professional)
-
ชั้นที่ 2: มาจูนรายละเอียด (เช่น เป็นมืออาชีพนะ แต่ขอให้ Warm หน่อย และช่วยทำ Headers เยอะๆ ด้วย) การผสมผสานแบบนี้จะทำให้ ChatGPT กลายเป็น “ผู้ช่วยส่วนตัว” ที่รู้ใจคุณที่สุดจริงๆ
วิธีตั้งค่าง่ายๆ (สำหรับคนที่ฟีเจอร์มาถึงแล้ว)
-
เปิดหน้า ChatGPT (แอปหรือเว็บก็ได้)
-
กดที่ โปรไฟล์/เมนูการตั้งค่า
-
มองหาคำว่า Personalization
-
เลือก Add Characteristics แล้วเริ่มจูนตามใจชอบได้เลย! หมายเหตุ: ถ้าใครยังไม่เห็น ไม่ต้องตกใจครับ OpenAI เขาทะยอยปล่อย (Rollout) ทีละกลุ่ม เดี๋ยวก็มาถึงคิวเราแน่นอน!
สรุป: เลือกแบบไหนให้เหมาะกับคุณ?
-
เน้นส่งงาน/วิชาการ: Warm (Less), Enthusiastic (Less), Headers (More)
-
เน้นเขียนโพสต์ Facebook/TikTok: Warm (More), Enthusiastic (More), Emoji (Default)
-
เน้นระบายความเครียด: Warm (More), Enthusiastic (Default), Emoji (More)
ลองไปปรับเล่นกันดูนะครับ แล้วจะรู้ว่า ChatGPT ที่ “ถูกจริต” เราเนี่ย มันช่วยให้การทำงานและการใช้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะเลย!
FAQ: ถาม-ตอบ ข้อสงสัยฟีเจอร์จูนนิสัย AI
Q1: ถ้าตั้งค่าไว้แล้ว แต่อยากให้บางแชตตอบแบบอื่น ต้องไปแก้คืนไหม? ตอบ: ไม่จำเป็นครับ! แม้เราจะตั้งค่าหลักไว้ใน Personalization แล้ว แต่ถ้าในแชตนั้นๆ เราพิมพ์คำสั่งเฉพาะเจาะจงลงไป เช่น “ตอบแบบทางการที่สุด ห้ามมีอารมณ์ร่วม” ตัว ChatGPT ก็จะยึดตามคำสั่งล่าสุดในแชตนั้นๆ เป็นหลักครับ (คำสั่งเฉพาะกิจชนะค่า Default เสมอ)
Q2: ฟีเจอร์นี้ต่างจาก Custom Instructions ที่เราเคยใช้ยังไง? ตอบ: Custom Instructions คือการที่เราต้อง “เขียนบรรยาย” เองทั้งหมดว่าอยากได้อะไร ซึ่งบางทีก็กะเกณฑ์ยาก แต่ฟีเจอร์ใหม่นี้เหมือนเป็น “ปุ่มปรับหมุน” (Sliders) ที่ OpenAI เซ็ตมาตรฐานมาให้แล้ว ทำให้การควบคุมโทนเสียงแม่นยำและง่ายกว่าการเขียนอธิบายเองครับ
Q3: ทำไมเพื่อนใช้ได้แล้ว แต่เรายังไม่มีเมนูนี้ขึ้น? ตอบ: เป็นเรื่องปกติของ OpenAI ครับ เขาจะใช้วิธีทยอยปล่อยฟีเจอร์ใหม่ตามภูมิภาคและประเภทบัญชี (Free/Plus) นอกจากนี้อาจจะขึ้นอยู่กับเวอร์ชันของแอปในมือถือด้วย แนะนำให้หมั่นอัปเดตแอปบ่อยๆ หรือลองเช็กในหน้าเว็บดูครับ


