สรุปยอดจัด สมาร์ทวอทช์ สมาร์ทแบนด์ และนาฬิกาช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้

Must Read

สวัสดีคอไอที และสาวกค่ายผลไม้ทุกคน วันนี้เรามีข่าวดีจะแจ้งให้ทุกท่านได้ทราบว่า ตอนนี้ Apple Watch ยังเป็นผู้นำในตลาดสมาร์ทวอทช์ ขณะที่ Xiaomi ครองตลาดอุปกรณ์สวมใส่ทั้งหมด ในไตรมาสที่ 2 ปีนี้  

รายละเอียดเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร ติดตามหาคำตอบได้ที่ด้านล่างนี้

  • เร็วๆ นี้บริษัทวิจัย Canalys พบว่าในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ ตลาดอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะทั่วโลกเติบโตขึ้น 6% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2022 โดยมียอดจัดส่ง 9 ล้านเครื่อง
  • โดยที่อุปกรณ์ประเภท Smartband หรือกำไลดิจิตอล จะพบว่ามียอดจัดส่งลดลง 8% จากยอดจัดส่ง 15.5 ล้านเครื่อง
  • ขณะที่ Smartwatch (รวมถึงนาฬิกาข้อทั่วไป) มีการเติบโตเพิ่มขึ้น 9% จากยอดจัดส่ง 25.4 ล้านเครื่อง หรือคิดเป็นสัดส่วน 62% ของตลาดอุปกรณ์สวมใส่ทั้งหมดในไตรมาสที่ 2 ปี 2021
  • ที่น่าสนใจก็คือกลุ่ม Smartwatch (รวมถึงนาฬิกาข้อทั่วไป) พบว่า Apple Watch ยังเป็นอันดับ 1 ครองส่วนแบ่งตลาด 1% ในไตรมาสที่ 2 ปี 2021 จากยอดจัดส่ง 7.9 ล้านเครื่อง
  • อย่างไรก็ตาม ถ้านับรวมอุปกรณ์สวมใส่ทั้งหมดทั้ง Smartband, Smartwatch และนาฬิกาข้อทั่วไป จะพบว่า Xiaomi มียอดจัดส่งสูงที่สุด โดยครองส่วนแบ่งในตลาด 6% ในไตรมาสที่ 2 ปี 2021 จากยอดจัดส่ง 8 ล้านเครื่อง

และนี่ก็คือสรุปยอดจัดสมาร์ทวอทช์ สมาร์ทแบน และนาฬิกาข้อมือประจำไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ที่เราอยากแจ้งให้เพื่อนๆ ได้ทราบ ก็หวังว่าจะเป็นที่ชื่นชอบถูกใจคอไอทีทุกคน ใครรักแบรนด์ไหนชอบแบรนด์ไหน ก็อย่าลืมอุดหนุนสินค้าของแบรนด์ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ด้วยนะครับ

ที่มา

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก: ผลกระทบจาก Fed, ราคาน้ำมัน

ตลาดหุ้นทั่วโลกประสบกับการปรับตัวลดลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ภายใต้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันพบกับความผันผวน โดยมีการเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อน และลดลงในวันที่ 8 เมษายน หลังการเจรจาหยุดยิงในตะวันออกกลาง ทองคำก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน เหตุการณ์แผ่นดินไหวในไต้หวันส่งผลกระทบจำกัดต่ออุตสาหกรรมผลิตชิป และตลาดหุ้นจีนได้รับประโยชน์จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด เงินเฟ้อในยุโรปก็แสดงถึงการลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่การลดดอกเบี้ยจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในเดือนมิถุนายน ด้านผู้จัดการกองทุนต่างคาดการณ์ว่าตลาดโดยรวมจะแกว่งตัวตามข้อมูลเงินเฟ้อและผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐฯ ภาพรวมตลาดที่ผ่านมาแกว่งตัวในแนวข้าง...
- Advertisement -

More Articles Like This