ส่องโปรเจ็ค Cruise Origin ยานยนต์ไร้คนขับสุดล้ำจาก General Motor

Must Read

สวัสดีเพื่อนๆ ชาว ไอทีเมามันส์ ทุกคน กลับมาพบกันอีกครั้งกับเรื่องราวที่น่าสนใจในโลกแห่งยานยนต์  เพื่อนๆ ที่ติดตามวงการนี้อยู่บ้างคงพอจะทราบกันนะครับว่าหลังจากที่เครือรถยักษ์ใหญ่จากอเมริกาอย่าง General Motors หมกมุ่นอยู่กับการสร้างรถให้บริการรับ-ส่งแบบไร้คนขับเต็มรูปแบบอยู่นาน ในที่สุดรถในแนวคิดที่ว่าก็ถูกเปิดตัวออกมาในชื่อ Cuirse Origin ซึ่งยานยนต์จากโครงการนี้มีความน่าสนใจอย่างไร ลองมาดูกันเลย 

Cruise Origin คืออะไร ? 

 

Cruise Origin เป็นรถที่พัฒนาโดย Cruise LLC สตาร์ทอัพด้านซอฟแวร์รถยนต์ไร้คนขับที่ถูก General Motors ซื้อเข้าไปอยู่ในเครือตั้งแต่ปี 2016 จากเดิมที่ Cruise LLC พัฒนาแค่ซอฟแวร์เท่านั้น เมื่อได้ GM เข้ามาหนุนหลังก็ทำให้พวกเขาหันมาพัฒนารถไร้คนขับขึ้นทั้งคัน โดยเริ่มจากการทดสอบระบบใน Chevrolet Bolt EV นอกจากนี้ในปี 2018 Cruise LLC ยังได้ Honda เข้ามาร่วมลงทุนให้เม็ดเงินสูงถึง 750 ล้านดอลลาร์ฯ ทำให้เบื้องหลังของรถคันนี้เกิดจากค่ายรถยักษ์ใหญ่ถึงสองค่ายด้วยกัน

จุดเด่นของรถยนต์จากโครงการ Cruise Origin

 

Cruise Origin นั้นเป็นไร้คนขับแบบเต็มรูปแบบ ติดตั้งระบบ Autopilot เลเวล 5 ซึ่งเป็นระดับที่ไม่จำเป็นต้องติดตั้งพวงมาลัยให้กับรถ เพราะระบบจะตัดสินใจเองทุกอย่างระหว่างขับเคลื่อน ระบบขับเคลื่อนก็ใช้พลังงานไฟฟ้า 100% ภายในมีที่นั่งทั้งหมด 6 ที่นั่งแบบหันหน้าชนกัน บริเวณที่นั่งจะสิ่งอำนวยความสะดวกแยกแต่ละบุคคล เช่น ที่เสียบ USB ชาร์จแบต

ทั้งนี้ค่ายไม่ได้เผยรายละเอียดด้านระบบขับเคลื่อนออกมา บอกเพียงแค่ว่าเป็นรถคันแรกที่สร้างบนพื้นฐานรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ของ GM ที่เตรียมจะนำมาสร้าง Chevrolet Bolt EV เจนฯ ใหม่

 

รูปแบบการให้บริการของยานยนต์จากโครงการ Cruise Origin 

การให้บริการนั้นจะเป็นแบบ Ride-Sharing หรือก็คือลูกค้ากดเรียกรถผ่านแอปฯ (เหมือนกับ Grab) โดยจะเริ่มให้บริการที่ San Francisco ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักใหญ่ Cruise LLC ก่อนเป็นที่แรก

Cruise ยังไม่เปิดเผยว่าค่าใช้บริการรถจะตกอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ แต่ Dan Ammann ซีอีโอของ Cruise กล่าวว่าบริการนี้จะช่วยประหยัดเงินได้ 5,000 ดอลลา์ฯ (ราว 152,000 บาท) ต่อปี เนื่องจากพลังงานไฟฟ้ามีต้นทุนที่ถูก และการไม่มีคนขับก็ช่วยลดต้นทุนไปได้อีกหลายเท่า และบริษัทที่จะซื้อรถคันนี้ไปให้บริการก็จะประหยัดต้นทุนด้วย เพราะรถถูกออกแบบมาให้มีอายุใช้งานได้เกิน 1 ล้านไมล์ (1.6 ล้านกม.) และชิ้นส่วนในรถถูกออกแบบมาให้ซ่อมหรือเปลี่ยนแบบแยกชิ้นได้จำนวนมาก

 

ยานยนต์จากโครงการ Cruise Origin คาดว่าจะเริ่มให้บริการเมื่อไหร่ ? 

ในงานเปิดตัวเผยว่ารถจะเริ่มให้บริการในปี 2020 นี้เลย เพราะรถผ่านการทดสอบเบื้องต้นแล้ว จากหน่วยงานจราจรเพื่อความปลอดภัยสหรัฐอเมริกา หรือ NHTSA (National Highway Traffic Safety Administration) ก็ต้องรอดูกันว่า Cruise จะสามารถเปิดให้บริการได้ในปีนี้อย่างที่หวังเอาไว้ได้หรือไม่ หรืออาจจะติดปัญหาด้านกฎหมายที่ทำให้ล่าช้าลง

เนื่องจากปัจจุบันอเมริกายังไม่มีกฎหมายของรับรถประเภทนี้ ก็ต้องรอดูว่าจะมีการตั้งกฎใหม่ขึ้นมาสำหรับรถประเภทนี้โดยเฉพาะหรือไม่ต่อจากนี้หาก GM สามารถทำเป้าหมายที่วางเอาไว้ได้ เชื่อว่านี่จะเป็นการผลิกโฉมวงการรถยนต์สาธารณะครั้งใหญ่ที่อเมริกาอย่างแน่นอน และผู้ที่ได้รับผลกระทบเต็มๆ ก็คือเหล่าคนขับรถแท็กซี่แต่จะทำได้หรือไม่ ก็ต้องรอดูกันต่อไป 

 

 

 

 

 

 

 

 

ที่มา: electrektechcrunchthevergetopgear

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

เผยรายงานคนไทยเผชิญ SMS หลอกลวงมากสุดในเอเชียปี 2566 จาก Whoscall

ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลเป็นสิ่งที่ไหลเวียนได้รวดเร็วที่สุด ประเด็นเรื่องความปลอดภัยสารสนเทศก็เป็นหัวข้อที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงอย่างต่อเนื่อง Whoscall, แอปพลิเคชั่นชั้นนำที่ช่วยในการระบุตัวตนของสายเรียกเข้าไม่ที่รู้จักและการป้องกันข้อความสแปม, ได้เปิดเผยรายงานประจำปี 2566 ที่แสดงให้เห็นว่าคนไทยตกเป็นเหยื่อของ SMS หลอกลวงมากกว่าใครในเอเชียด้วยจำนวนถึง 58 ล้านข้อความ แม้ว่าในภูมิภาคเอเชียโดยรวมจะพบว่าการหลอกลวงมีแนวโน้มลดลงจากการทำงานร่วมกันของภาครัฐและภาคเอกชน แต่ในประเทศไทยกลับพบว่ามีการเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ การหลอกลวงเหล่านี้รวมถึงการส่งข้อความที่มีลิงก์ปลอม, การหลอกลวงเกี่ยวกับการลงทุนและเว็บพนัน และการใช้ชื่อของหน่วยงานรัฐในการหลอกลวง การรายงานจาก Whoscall ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการรับข้อมูล พวกเขายังได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบ URL...
- Advertisement -

More Articles Like This