เคยไหมที่บางวันตื่นมาแล้วต้องปวดหัวเพราะจำรหัสผ่านของทุกแอป ทุกเว็บ ทุกบัญชีไม่ได้? ไม่ว่าจะเป็นอีเมล โซเชียลมีเดีย บัญชีธนาคาร แอปช้อปปิ้ง หรือบริการสตรีมมิ่งสารพัด บางคนก็มีสิบกว่าบัญชี บางคนหนักขนาดสามสิบขึ้นไป แต่ละรหัสผ่านก็ต้องตั้งให้ต่างกัน จะซ้ำก็กลัวโดนแฮก จะจดก็กลัวหาย จะบันทึกใส่สมุดก็เกะกะ ไม่สะดวกทุกครั้งที่ต้องเข้าเว็บ หรือพิมพ์ผิดพิมพ์ถูกกันรัวๆ จนบางทีก็ถูกล็อกบัญชีชั่วคราวไปเลย
วันนี้เรามาลองคุยกันแบบบ้านๆ ถึงเรื่อง “Password Manager” หรือเครื่องมือช่วยจัดการรหัสผ่าน ว่ามันคืออะไร มีประโยชน์ยังไง แล้วจะช่วยให้ชีวิตเราง่ายขึ้นมากน้อยแค่ไหน พูดง่ายๆ คือถ้าคุณเป็นคนที่รู้สึกว่ารหัสผ่านเยอะเกินจนสมองไกล้ระเบิด ต้องมาลองใช้เจ้า Password Manager ดูสักที เพราะมันอาจทำให้คุณหายปวดหัวไปเยอะ
Password Manager คืออะไร
Password Manager คือโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันที่สร้างขึ้นมาเพื่อช่วยจัดเก็บ จดจำ และบริหารรหัสผ่านต่างๆ ของเราโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นรหัสของอีเมล บัญชีธนาคาร โซเชียลมีเดีย เว็บไซต์สมัครสมาชิก หรือบริการออนไลน์อีกเป็นสิบเป็นร้อย Password Manager จะทำให้เรามี “ที่อยู่ส่วนกลาง” ในการจัดเก็บและดึงเอารหัสผ่านเหล่านั้นมาใช้ แทนที่จะต้องพิมพ์เองหรือพยายามจำด้วยสมอง
เจ้า Password Manager ส่วนใหญ่จะถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย มีอินเทอร์เฟซเป็นมิตรกับผู้ใช้ บางตัวก็ทำงานผ่านปลั๊กอินในเบราว์เซอร์ด้วย เช่น เมื่อเราเปิดเว็บที่ต้องล็อกอิน มันก็จะเด้งขึ้นมาให้กรอกยูสเซอร์เนมและรหัสผ่านให้อัตโนมัติ แล้วเราก็ไม่ต้องมานั่งจำให้ปวดหัว บางครั้งยังมีฟีเจอร์เสริมเช่น การสร้างรหัสผ่านที่เดายากให้เอง หรือการแจ้งเตือนหากเราใช้รหัสผ่านซ้ำซ้อนกันหลายแห่ง
ทำไมถึงควรใช้ Password Manager
- ลดความปวดหัวเรื่องจำรหัสผ่าน
ปกติถ้าเรามี 10 บัญชี ก็ต้องจำ 10 รหัสผ่าน หรือใครมี 30 บัญชี ก็ต้องจำ 30 รหัสผ่าน ฟังดูทรมานใช่ไหมล่ะ? แต่ถ้าใช้ Password Manager เราก็แค่จำ “Master Password” รหัสเดียวเอาไว้ เพื่อปลดล็อกคลังรหัสผ่านทั้งหมด จากนั้นเราก็ดึงเอารหัสผ่านไหนไปใช้ก็ได้ตามสบาย - สร้างรหัสผ่านที่ปลอดภัยมากขึ้น
คนเรามักชอบตั้งรหัสผ่านง่ายๆ เช่น 123456, วันเกิด, ชื่อสุนัข, ชื่อแฟน อะไรทำนองนี้ เพราะจำง่ายสุดๆ แต่ก็เสี่ยงโดนแฮกเหมือนกัน Password Manager หลายตัวสามารถสร้างรหัสผ่านแบบสุ่มที่เดายากให้เราได้ จะเป็นตัวอักษรผสมตัวเลขและสัญลักษณ์แบบมั่วๆ ซึ่งเพิ่มความปลอดภัยได้เยอะ - มีการเข้ารหัส (Encryption) ขั้นเทพ
Password Manager ที่ได้รับความนิยมส่วนใหญ่จะมีการเข้ารหัสข้อมูลที่เก็บไว้ เช่น AES-256 หรือรูปแบบอื่นที่แข็งแกร่งพอตัว ทำให้คนอื่นๆ ที่ไม่ใช่เราอ่านข้อมูลไม่ได้ แม้แต่ผู้ให้บริการเองก็ไม่รู้ว่าเราตั้งรหัสผ่านอะไร แต่ถ้าเราทำ Master Password หายหรือลืมเอง ก็อาจจะเป็นเรื่องใหญ่เช่นกัน - อำนวยความสะดวกเวลาล็อกอิน
บางบริการจะเติมยูสเซอร์เนมหรืออีเมลให้เองด้วยซ้ำ แค่กด “อัตโนมัติ” ก็ล็อกอินได้แล้ว ประหยัดทั้งเวลาและแรงนึก จำได้บางครั้งเวลาเราพิมพ์รหัสผ่านเอง บางทีพิมพ์ผิดสักตัวสองตัว ก็ต้องเริ่มใหม่ แถมยังเสียเวลาจดจ่ออีกต่างหาก - ตรวจสอบรหัสผ่านซ้ำซ้อนหรือล้าสมัย
Password Manager บางตัวจะมีฟีเจอร์ตรวจสุขภาพรหัสผ่าน เช่น แจ้งเตือนว่ารหัสผ่านที่ใช้มันอ่อนเกินไป หรือไปซ้ำกับรหัสผ่านที่เราใช้ในที่อื่น ซึ่งเสี่ยงถ้าเกิดเว็บนั้นข้อมูลหลุดแล้วจะโดนเอาไปลองล็อกอินในอีกเว็บหนึ่ง ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้เราค่อยๆ ปรับปรุงรหัสผ่านให้แข็งแกร่งขึ้น
แนะนำ Password Manager ที่เป็นที่นิยม
แม้ว่าในตลาดจะมี Password Manager อยู่มากมายหลายเจ้า แต่ก็มีชื่อเด่นๆ ที่หลายคนพูดถึงกันบ่อยๆ เช่น
- LastPass: ชื่อเสียงโด่งดัง และมีปลั๊กอินทำงานกับเว็บเบราว์เซอร์ได้ดี แต่ก็เคยมีข่าวหลุดข้อมูลบางอย่างบ้างเหมือนกัน จึงต้องตามดูเรื่องความปลอดภัยสม่ำเสมอ
- 1Password: ได้รับความนิยมเพราะหน้าตาสวย ใช้ง่าย มีความปลอดภัยสูง และฟีเจอร์ค่อนข้างครบถ้วน
- Dashlane: เป็นอีกตัวที่โดดเด่นเรื่องความสามารถในการเติมฟอร์มแบบอัตโนมัติ มีแพ็คเกจใช้งานฟรีจำกัดจำนวนรหัสผ่านได้ด้วย
- KeePass: สายฟรีและโอเพ่นซอร์ส ไว้ใจได้ในแง่ที่ชุมชนนักพัฒนาช่วยกันตรวจสอบ แต่จะใช้ยากเล็กน้อยสำหรับมือใหม่ เพราะหน้าตาอาจจะไม่สวยงามเท่าเจ้าอื่น
อย่าลืมว่าการเลือก Password Manager ควรดูด้วยว่าตรงกับการใช้งานของเรารึเปล่า บางคนอยากได้แบบง่ายๆ ใช้ข้ามอุปกรณ์ได้หลายเครื่อง บางคนเน้นฟรี บางคนเน้นเสียเงินแต่ขอความปลอดภัยระดับสูงสุด ก็ต้องลองเปรียบเทียบกันไป
วิธีเริ่มต้นใช้งาน Password Manager แบบง่ายๆ
- เลือกแอป/โปรแกรมที่เหมาะ
หากคุณต้องการใช้งานบนคอม มือถือ และแท็บเล็ต ก็เลือก Password Manager ที่รองรับแพลตฟอร์มต่างๆ ครบถ้วน บางเจ้าต้องสมัครสมาชิก บางเจ้ามีเวอร์ชันฟรีกับพรีเมียม - ดาวน์โหลดและติดตั้ง
ทำตามขั้นตอนที่ Password Manager แนะนำ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการติดตั้งปลั๊กอินบนเบราว์เซอร์ หรือโหลดเป็นแอปลงมือถือ เสร็จแล้วให้ตั้งค่า Master Password เพื่อความปลอดภัย แล้วพยายามตั้งให้คาดเดายากหน่อย อย่าเอาไปซ้ำกับรหัสผ่านอื่น - นำเข้าข้อมูลรหัสผ่านเดิม
Password Manager หลายตัวรองรับการนำเข้ารหัสผ่านจากเบราว์เซอร์หรือไฟล์ต่างๆ แบบอัตโนมัติ ทำให้ชีวิตสะดวกขึ้น แต่ถ้าคุณเคยจดรหัสผ่านไว้ในสมุดหรือ Excel ก็อาจจะต้องค่อยๆ เพิ่มลงไปเอง - เริ่มใช้งานและให้ระบบบันทึกอัตโนมัติ
เวลาเราล็อกอินเว็บไหน เจ้า Password Manager จะถามว่า “ต้องการให้บันทึกรหัสผ่านไหม?” ถ้าเราตอบตกลง มันก็จะเซฟไว้ให้เรา และครั้งต่อไปก็ล็อกอินแบบอัตโนมัติได้เลย - อัปเดตรหัสผ่านให้แข็งแรง
เมื่อมีโอกาส ก็ควรเข้าไปตรวจสอบว่าเรามีรหัสผ่านไหนที่ง่ายเกินไป ซ้ำซ้อน หรือใช้มานานเกินไปแล้ว เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ลองให้ Password Manager ช่วยสร้างรหัสผ่านใหม่ให้ แล้วค่อยไปเปลี่ยนในแต่ละเว็บ
เรื่องความปลอดภัยที่ควรรู้
จริงๆ แล้ว Password Manager นั้นปลอดภัยในระดับสูง เพราะมีการเข้ารหัสข้อมูลที่จัดเก็บไว้ รวมทั้งใช้ระบบยืนยันตัวตนหลายชั้น (Multi-factor Authentication) ได้ด้วยในบางตัว แต่เราก็ต้องไม่ประมาท เช่น
- อย่าเปิดเผย Master Password ให้ใครรู้ แม้แต่คนใกล้ตัว
- ตั้ง Master Password ให้เดายาก เช่น ผสมตัวอักษรเล็ก-ใหญ่ ตัวเลข และสัญลักษณ์
- เปิดใช้งาน 2FA หรือ MFA ถ้ามี
- หมั่นอัปเดตซอฟต์แวร์ Password Manager เพื่อปิดช่องโหว่
- ระวังฟิชชิ่ง (Phishing) ที่อาจจะทำมาเลียนแบบเว็บล็อกอิน หรือเลียนแบบหน้า Password Manager
ถ้าเราป้องกันตัวและใช้งานอย่างถูกวิธี Password Manager ก็จะเป็นเหมือนท่าไม้ตายที่ทำให้การจัดการรหัสผ่านเป็นเรื่องง่ายและปลอดภัยมากขึ้น
ข้อกังวลต่างๆ เกี่ยวกับ Password Manager
- ถ้าลืม Master Password ทำไงดี?
บางบริการจะให้เราตั้ง “Recovery Phrase” หรือ “Recovery Email” เอาไว้ แต่บางเจ้าก็ไม่มี ถ้าลืมจริงๆ ก็เข้าไม่ได้อีกเลย เพราะมันเข้ารหัสลับสุดๆ ฉะนั้นตั้งรหัสหลักแล้วจำ หรือเก็บไว้ในที่ปลอดภัยจริงๆ - ถ้าโดนแฮกหรือข้อมูลรั่วล่ะ?
แม้จะมีโอกาสเกิดขึ้น แต่ก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพราะ Password Manager ส่วนใหญ่ใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัสที่แน่นหนา ทำให้คนที่ขโมยข้อมูลไปก็อาจจะถอดรหัสไม่สำเร็จ แต่เราก็ควรเลือกบริการที่เชื่อถือได้ มีประวัติความปลอดภัยดี - ต้องเสียเงินไหม?
มีทั้งแบบฟรีและเสียเงิน แล้วแต่บริการ ถ้าเป็นแบบฟรีอาจมีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น เก็บรหัสผ่านได้จำนวนหนึ่งเท่านั้น หรือซิงก์ข้ามอุปกรณ์ได้จำกัด ถ้าต้องการฟีเจอร์เต็ม ๆ อาจต้องพิจารณาแบบเสียเงิน
ชีวิตดีขึ้นยังไงเมื่อมี Password Manager
- ไม่ต้องนั่งปวดหัวกับการลืมรหัสผ่าน
เชื่อเถอะว่าถ้าจำได้รหัสเดียว (Master Password) ก็สบายใจกว่าเยอะ ไม่ต้องพกโพย ไม่ต้องจดเป็นสิบๆ อัน หรือกลัวสูญหาย - ตั้งรหัสผ่านสตรองได้ทุกเว็บ
เพราะ Password Manager จะจำให้เองว่าตัวไหนเป็นอะไร ทำให้เราอาจตั้งรหัสผ่านที่สลับซับซ้อนขึ้น ไม่ต้องยึดติดกับวันเกิดหรือชื่อสัตว์เลี้ยงอีกต่อไป - ล็อกอินไวเว่อร์
เบื่อไหมเวลาต้องพิมพ์ชื่ออีเมลยาวๆ พอเข้าหน้าเว็บก็มัวยุ่งกับตัวเลขตัวอักษรต่างๆ? ถ้ามี Password Manager มันจะช่วยกรอกให้เราทีเดียวจบ - หมดกังวลเรื่องรหัสผ่านซ้ำกันหลายเว็บ
เพราะ Password Manager จะช่วยเตือนว่ารหัสผ่านนี้คุณใช้ไปแล้วนะ หรือให้เราเปลี่ยนเถอะ ถ้าพบว่ามันถูกใช้ซ้ำบ่อยๆ - ลดความเสี่ยงโดนแฮก
การตั้งรหัสผ่านที่เดายากและไม่ซ้ำกันในทุกบริการ ย่อมเพิ่มความปลอดภัยขั้นสุด เพราะถ้ามีเว็บไหนโดนเจาะข้อมูลรั่ว รหัสผ่านของเราก็จะไม่โดนเอาไปใช้ทำอย่างอื่น
สรุป
ในยุคที่เราต้องทำงานผ่านคอมและมือถือกันแทบจะ 24 ชั่วโมง บัญชีออนไลน์ก็ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด ถ้าเราต้องมาจำรหัสผ่านเองทุกอันมีหวังต้องปวดสมองไปตามๆ กัน Password Manager จึงกลายเป็นอีกตัวช่วยสำคัญที่คนยุคดิจิทัลไม่ควรมองข้าม เพราะมันช่วยให้เราบริหารจัดการรหัสผ่านได้อย่างสะดวก และที่สำคัญคือปลอดภัยขึ้นเยอะ
แน่นอนว่ามันไม่ใช่ไม้กายสิทธิ์ที่จะแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง เรายังต้องมีวินัยในการตั้งรหัสผ่านหลัก (Master Password) ให้ยากพอ รวมถึงระวังฟิชชิ่งและอัปเดตซอฟต์แวร์อยู่เรื่อยๆ แต่ถ้าคุณกำลังนั่งกุมขมับว่ารหัสผ่านอันนั้นคืออะไรนะ หรือพยายามกด “ลืมรหัสผ่าน” ให้มันส่งอีเมลทุกวัน ลองมาสมัคร Password Manager สักตัว แล้วชีวิตคุณอาจจะง่ายขึ้นแบบคาดไม่ถึงจริงๆ
ส่วนใครลังเลจะเลือกใช้บริการเจ้าไหน ก็ลองค้นหาข้อมูลเปรียบเทียบ และอ่านรีวิวจากแหล่งต่างๆ อย่าง TechRadar เพื่อดูจุดเด่นจุดด้อยของแต่ละเจ้า แล้วตัดสินใจตามสไตล์การใช้งานของเราเอง แต่ถ้าลองแล้วรับรองเลยว่าอาการลืมรหัสผ่านที่เคยทำให้ปวดหัวน่าจะลดลงเป็นกอง ลองดูเถอะ สบายขึ้นเยอะ!