แสนสิริ ประเมินเศรษฐกิจ กำลังซื้อยังขยายตัวอยู่

Must Read

Jiradech Suchada
Jiradech Suchadahttps://www.itmoamun.com/
การตลาดออนไลน์ เทคโนโลยี ธุรกิจ Passive Income ทำตัวเป็น Blogger แถมกด Shutter รัวๆ แล้วออกไปปั่นๆ พร้อมทั้งเก็บเป็นเรื่องราวดีๆผ่านพื้นที่ตรงนี้ออกมาเป็นบทความ รูปภาพ วิดีโอ แบบเล่าสู่กันฟัง อย่าลืมมาติดตามกันนะครับ

แสนสิริ นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการ บริษัท แสนสิริ จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ไตรมาส 4 ยังเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียม ทั้งนี้เห็นได้จากอัตราการขายในช่วงครึ่งปีแรกมีมากถึง 3 หมื่นยูนิต จากจำนวนยูนิตเปิดขายทั้งสิ้น 4-5 หมื่นยูนิต ถือว่าเป็นอัตราการขายดีที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนภาพความต้องการของตลาดในทุกเซกเม้นท์ รวมทั้งตลาดคอนโดฯระดับบน ที่ขายราคา 1 แสนบาทต่อตรม.ขึ้นไป ที่ตั้งแต่ต้นปี มีสินค้าเข้าสู่ตลาดประมาณ 9,200 ยูนิต ปัจจุบันพบว่ามียอดขายไปถึง 4,100 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วนขาย 45% สูงเป็นอันสองของตลาด ส่วนที่เหลือประมาณ 6,000 ยูนิต คาดว่า จะขายได้เกือบหมดในสิ้นปีนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ภาคธุรกิจอสังหาฯ ยังมีความเปราะบาง ที่ได้รับผลกระทบจากปัจจภัยภายนอก รวมถึงผลกระทบจากการชะลอตัวของการส่งออก ที่คาดการณ์ว่าไตรมาส 3 จะติดลบ ซึ่งจะกระทบต่อจีดีพีเติบโตไม่ถึง 3% แต่บริษัทเชื่อว่ารัฐบาลน่าจะมีมาตรการออกมากระตุ้นกำลังซื้อ และการลงทุนภายในประเทศ ผ่านการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย จากปัจจุบันอยู่ที่ 3% เหลือ 2.75 % ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจอสังหาฯที่พึ่งกำลังซื้อในประเทศ เกิดความเชื่อมั่นในทั้งในผู้บริโภคและผู้ประกอบการ “เราเชื่อว่าจีดีพีปีนี้โตที่ 3% แต่หากเลวร้ายที่สุดโตที่ 1% แสนสิริคงต้องวางแผนธุรกิจในปี 2556 อีกครั้ง” นายอุทัยกล่าวพร้อมย้ำว่า สำหรับปีนี้ เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจโดยรวมยังดีต่อเนื่อง ทำให้ไตรมาส 4 บริษัทเดินหน้าตามแผน ทั้งการเปิดโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ 14 โครงการ ทั้งในกทม.และต่างจังหวัด มูลค่าเกือบ 2 หมื่นล้านบาท จากครึ่งปีแรกเปิดไปแล้ว 13 โครงการ รวมเป็น 27 โครงการ และในส่วนของยอดขายรวมคาดว่าจะได้ตามเป้า 2.8 หมื่นล้านบาท โดย 30% เป็นยอดขายต่างจังหวัด เพราะขยายทำเลลงทุนเพิ่มจาก 4 จังหวัดเป็น 6 จังหวัด ขณะที่รับรู้รายได้รวมทั้งปีอยู่ที่ 2 หมื่นล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายรอรับรู้รายได้ ทั้งแนวราบ และแนวสูงอยู่ที่ 4 หมื่นล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นคอนโดฯ คิดเป็น 3 หมื่นล้านบาท [code] Data : http://bit.ly/RvuhiU Iamges : http://talk.mthai.com/uploads/2009/03/03/10824-attachment.jpg [/code]

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก: ผลกระทบจาก Fed, ราคาน้ำมัน

ตลาดหุ้นทั่วโลกประสบกับการปรับตัวลดลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ภายใต้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันพบกับความผันผวน โดยมีการเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อน และลดลงในวันที่ 8 เมษายน หลังการเจรจาหยุดยิงในตะวันออกกลาง ทองคำก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน เหตุการณ์แผ่นดินไหวในไต้หวันส่งผลกระทบจำกัดต่ออุตสาหกรรมผลิตชิป และตลาดหุ้นจีนได้รับประโยชน์จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด เงินเฟ้อในยุโรปก็แสดงถึงการลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่การลดดอกเบี้ยจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในเดือนมิถุนายน ด้านผู้จัดการกองทุนต่างคาดการณ์ว่าตลาดโดยรวมจะแกว่งตัวตามข้อมูลเงินเฟ้อและผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐฯ ภาพรวมตลาดที่ผ่านมาแกว่งตัวในแนวข้าง...
- Advertisement -

More Articles Like This