สวัสดีเพื่อนๆ ชาว ไอทีเมามันส์ ทุกคน กลับมาพบกันอีกครั้งกับการอัพเดทข่าวความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจในโลกธุรกิจไอที สำหรับครั้งนี้เราก็มีข่าวสำคัญจากค่าย Huawei มาแจ้งให้ทุกท่านได้ทราบว่า หัวเว่ยได้ตั้งเป้าผลิตสมาร์ทโฟนเพียง 50 ล้านเครื่องในปี 2021 ลดลงถึง 74% เมื่อเทียบกับปี 2020 ซึ่งจะเป็นเพราะอะไร ใครอยากรู้ ก็ตามมาหาคำตอบกันเล้ยย
สรุปข่าวความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับธุรกิจสมาร์ทโฟนของ Huawei ล่าสุดได้ดังนี้
- แหล่งข่าวในเกาหลีใต้รายงานว่า Huawei วางแผนที่จะผลิตสมาร์ทโฟนเพียง 50 ล้านเครื่อง ในปี 2021 ลดลงถึง 74% จากยอดจัดส่งที่คาดว่าจะทำได้ในปีนี้ สอดคล้องกับการประเมินของ Strategy Analytics ที่คาดว่า Huawei จะมียอดจัดส่งสมาร์ทโฟนเพียง 59 ล้านเครื่องในปีหน้า
- ยอดจัดส่งสมาร์ทโฟนของ Huawei ในปี 2019 อยู่ที่ 240 ล้านเครื่อง และลดลงเหลือ 190 ล้านเครื่อง จากการคาดการณ์ในปี 2020 ดังนั้น เป้าหมายยอดจัดส่งสมาร์ทโฟนของ Huawei ในปีหน้า จึงเทียบได้กับ 21% และ 26% ของปี 2019 และ 2020 ตามลำดับ
-
ปัจจัยหลักที่ทำให้ Huawei ลดเป้าหมายยอดจัดส่งลงอย่างน่าตกใจ มาจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐอเมริกา ที่กีดกัน Huawei ในการซื้อส่วนประกอบประเภทเซมิคอนดักเตอร์สำหรับสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2020 เป็นต้นไป แต่ผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ ของ Huawei ยังคงใช้ส่วนประกอบที่ทำรายการสั่งชื้อไปแล้ว ก่อนที่สหรัฐฯ จะประกาศคำสั่งออกมา
-
Samsung จะกลายเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่ได้รับประโยชน์จากการที่ Huawei ถูกแบน โดยแหล่งข่าวรายงานว่า Samsung ตั้งเป้าหมายเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดยุโรปในปีหน้า เนื่องจากมองเห็นส่วนแบ่งลดลงในช่วงครึ่งแรกของปี 2020 และวางแผนรุกตลาดในอินเดียและจีนด้วยเช่นกัน
-
ยอดจัดส่งสมาร์ทโฟนของ Samsung ในปี 2019 อยู่ที่ 295 ล้านเครื่อง และคาดว่าในปี 2020 จะทำได้ 240 – 260 ล้านเครื่อง โดยตั้งเป้ายอดจัดส่งไว้ที่ 300 ล้านเครื่อง ภายในปี 2021
-
ในปีหน้า Huawei อาจสูญเสียส่วนแบ่งในตลาดยุโรปให้กับ Samsung แต่ในประเทศจีน แหล่งข่าวเชื่อว่า Xiaomi จะได้รับประโยชน์มากที่สุด
และนี่ก็คือข่าวความเคลื่อนไหวในโลกธุรกิจไอทีจากค่าย Huawei ที่เราอยากจะแจ้งให้เพื่อนๆ ได้ทราบในครั้งนี้ จะเห็นได้ว่าวิกฤติการณ์การโดนคว่ำบาตรของหัวเว่ยครั้งนี้กระทบต่อภาคธุรกิจสมาร์ทโฟนอย่างสาหัสจริงๆ แล้วพวกเขาจะกลับมาผงาดได้อีกครั้งหรือไม่ก็คงต้องติดตามกันต่อไป
ที่มา – TheElec