ใครที่เป็นแฟนหนังสายลับแอ็กชันคงไม่มีใครไม่รู้จัก Tom Cruise กับบทบาท “อีธาน ฮันต์” จากแฟรนไชส์ Mission: Impossible ที่พีคขึ้นเรื่อยๆ ทุกภาค โดยเฉพาะในภาค Ghost Protocol (2011) ที่สร้างความฮือฮาทั่วโลกกับฉากเด็ดที่ Tom ปีนตึก Burj Khalifa ที่สูงที่สุดในโลกแบบจริงๆ ไม่มีสแตนด์อิน ไม่มี CGI พยุงตัว ซึ่งเป็นฉากที่กลายเป็นภาพจำของหนังสายลับยุคใหม่ทันที
แต่รู้หรือไม่ว่า…ฉากนี้ไม่ใช่แค่ดูแล้วเสียวไส้เฉยๆ แต่ยังทำให้ Dawn Meyerriecks อดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ CIA ถึงกับขมวดคิ้วและตั้งคำถามในแง่ของ “ความสมจริงทางสายลับ” เลยทีเดียว
เบื้องหลังฉากปีน Burj Khalifa ที่หลายคนไม่รู้
ในฉากนี้ Ethan Hunt ต้องแฮ็กระบบความปลอดภัยของตึกจากภายนอก โดยปีนขึ้นไปบนกระจกด้านนอกของตึกด้วยถุงมือดูดสูญญากาศ (ซึ่งตอนหนึ่งมันเกิดขัดข้องด้วย!) สิ่งที่น่าทึ่งคือ Tom Cruise แสดงเองทั้งหมด โดยมีสายสลิงและทีมงานรักษาความปลอดภัยคอยคุมอยู่หลังกล้อง ท่ามกลางแดดเปรี้ยงและลมแรงของดูไบ เขาอยู่ที่ชั้นเกือบ 130+ ซึ่งต้องผ่านการซ้อมร่างกายระดับนักกีฬาโอลิมปิกและการวางแผนที่แม่นยำมากๆ
ทำไม CIA ถึงมองว่าฉากนี้ “ไม่สมจริง”?
Dawn Meyerriecks ให้สัมภาษณ์ว่า ถึงฉากนี้จะน่าทึ่ง แต่ในเชิง “สายลับจริง” นี่คือการปฏิบัติภารกิจที่แทบเป็นไปไม่ได้ เธอบอกว่า:
“What if somebody looks out the window?”
ถ้าใครสักคนในตึกหันไปมองออกหน้าต่างแล้วเห็นคนห้อยอยู่ตรงนั้นล่ะ? แผนทั้งหมดคงพังแน่นอน และโดยเฉพาะกับสถานที่ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยแน่นหนาแบบนี้ การลอบเข้าจากนอกตึกน่าจะเป็นไปได้ยากมากในโลกความเป็นจริง
แต่ในมุมของหนัง มันคือ “สุดยอด”
แม้มันอาจจะไม่สมจริงนักในแง่การปฏิบัติงานจริง แต่สำหรับคนดู มันคือการผสมผสานระหว่าง “ความกล้า + เทคนิค + ความบ้า” ที่ผลลัพธ์คือฉากที่อยู่ในความทรงจำของคนทั่วโลก และยังเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า Tom Cruise ไม่ได้เป็นแค่นักแสดง แต่เขาเป็นคนที่ “ลุยจริง” เพื่อให้คนดูเชื่อในตัวละคร
ความสำเร็จของ Ghost Protocol
ภาคนี้กวาดรายได้ทั่วโลกไปกว่า $694 ล้านเหรียญสหรัฐ และทำให้ Mission: Impossible กลับมายืนแถวหน้าของหนังแอ็กชันระดับโลกอีกครั้ง โดยเฉพาะการใช้โลเคชันจริง เช่น ดูไบ, อินเดีย, รัสเซีย ที่ทำให้เรื่องราวมีมิติยิ่งขึ้น
บทสรุป
แม้ CIA จะส่ายหน้าให้กับแผนบุกตึกจากภายนอกแบบ Ethan Hunt แต่สิ่งที่เราเห็นใน Ghost Protocol คือความสุดขั้วของการสร้างหนังแอ็กชัน ที่ไม่ได้แค่ใช้ CG ให้หวือหวา แต่เอาตัวนักแสดงจริงไปแขวนไว้กลางอากาศ พร้อมใจของทีมที่ทำทุกอย่างเพื่อความสมจริง และความบันเทิงขั้นสุด
ถ้า Tom Cruise ยังไม่หยุดปีนหรือกระโดดจากที่สูง เราเชื่อว่า Mission: Impossible ภาคต่อๆ ไปก็จะยังไม่หยุดทำให้เราลุ้นระทึกและตาค้างเช่นกัน