สวัสดีคอยานยนต์ทุกคน ครั้งนี้เรามีข่าวที่น่าตื่นเต้นจะมาแจ้งให้ได้ทราบว่า เร็วๆ นี้นิสสัน (Nissan) บริษัทรถยนต์ชั้นนำในประเทศญี่ปุ่นได้เปิดตัวแนวคิดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าไฮเปอร์ฟอร์ซ (Hyper Force) ในงาน Japan Mobility Show 2023 งานแสดงเทคโนโลยีรถยนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ที่จัดขึ้น ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นที่เพิ่งจะจบไปสดๆ ร้อนๆ โดยรถยนต์รุ่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก แบตโมบิล (BatmobileX ในภาพยนตร์เรื่องแบทแมน (Batman) ซึ่งมีรูปทรงที่สวยงามเฉียบคมและทันสมัย ซึ่งมันจะน่าสนใจอย่างไร ใครอยากรู้ต้องตามมาดูกันเลย
สรุปข้อมูลและรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับรถยนต์ Hyper Force ได้ดังนี้
- รถยนต์พลังงานไฟฟ้าไฮเปอร์ฟอร์ซ (Hyper Force) เป็นส่วนหนึ่งของแผนการตลาดของบริษัทที่เริ่มเปิดตัวแนวคิดการออกแบบรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นต่าง ๆ สัปดาห์ละ 1 รุ่น ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนตุลาคม เช่น รุ่น Nissan HYPER URBAN ที่เปิดตัวในสัปดาห์แรก ๆ รุ่น Hyper Adventure ที่เปิดตัวในช่วงสัปดาห์ที่ 2 ตามด้วยรุ่น Nissan Hyper Punk ที่ถูกเปิดตัวในสัปดาห์ที่ 3 ก่อนหน้านี้ และรุ่นไฮเปอร์ฟอร์ซ (Hyper Force) เป็นแนวคิดรถยนต์รุ่นสุดท้ายที่จะเปิดตัวในเดือนนี้
-
การออกแบบภายนอกมีขนาดที่กว้างและจัดวางเป็นการผสมผสานระหว่างส่วนโค้งเพรียวบางอย่างลงตัวกับรูปทรงเรขาคณิตที่โดดเด่นซึ่งสะท้อนถึงประสิทธิภาพขององค์ประกอบต่างๆ ที่รวมอยู่ในการออกแบบ เช่น ไฟหน้าและไฟท้าย เพื่อเป็นการแสดงถึงรถยนต์สมรรถนะสูงของนิสสัน
-
โครงสร้างของตัวกระโปรงหน้าถูกออกแบบตามหลักแอโรไดนามิก เพื่อสร้างแรงกดและประสิทธิภาพการระบายความร้อนสูง ในขณะเดียวกัน ดิฟฟิวเซอร์ หรือ อุปกรณ์ที่ติดตั้งไว้ด้านหลังตัวรถช่วยควบคุมการไหลเวียนของอากาศเพื่อสร้างแรงกดยึดเกาะติดกับถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ คานาร์ดด้านหน้าหรืออุปกรณ์ที่ช่วยสร้างแรงยกให้กับตัวรถจากการไหลเวียนของอากาศทั้งสองข้างมีฟังชันแอโรว์หรือการไหลผ่านของอากาศที่มีความเป็นเอกลักษณ์
-
สำหรับแอคทูเอเตอร์พลาสม่าหรืออุปกรณ์ช่วยในการทรงตัวและช่วยการไหลผ่านของอากาศสามารถช่วยเพิ่มการยึดเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้นและเป็นการลดแรงยกของล้อในกรณีที่เข้าโค้งด้วยความเร็ว ส่วนล้อรถยนต์เป็นแบบคาร์บอนฟอร์จน้ำหนักเบา และช่วยเสริมการไหลผ่านของอากาศตามหลักอากาศพลศาสตร์และระบายความร้อนให้กับระบบเบรกของรถยนต์
-
จุดเด่นที่ทำให้แนวคิดการออกแบบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าไฮเปอร์ฟอร์ซ (Hyper Force) มีความน่าสนใจอยู่ตรงที่ทีมพัฒนา เปิดโอกาสให้กับผู้ที่สนใจสามารถขับรถยนต์รุ่นนี้ผ่านโลกเสมือนจริง โดยใช้เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม (AR) และความเป็นจริงเสมือน (VR) หรือการจำลองสภาพภายในและภายนอกตัวรถในโลกเสมือนจริง ทั้งนี้ก็เพื่อเชื่อมต่อผู้ใช้งานเข้ากับโลกเสมือนจริง ทำให้สัมผัสได้ถึงการออกแบบที่ยอดเยี่ยมของตัวรถยนต์ในทุกมุมมอง รวมไปถึงการจำลองการขับในมุมมองเดียวกับนักแข่งรถมืออาชีพได้อีกด้วย
-
สำหรับระบบพลังงานไฟฟ้า คาดว่ารถยนต์พลังงานไฟฟ้าไฮเปอร์ฟอร์ซ (Hyper Force) จะติดตั้งแบตเตอรี่เป็นแบบโซลิดสเตต หรือ แบตเตอรี่แบบลิเทียมไอออน ซึ่งมีข้อดีหลายประการ เช่น ความจุพลังงานไฟฟ้าสูง น้ำหนักเบา และอายุการใช้งานยาวนาน ให้กำลังไฟฟ้าสูงถึง 1,000 กิโลวัตต์ นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการขับขี่อัตโนมัติขั้นสูง ด้วยการติดตั้ง- – เทคโนโลยีไลดาร์ (LIDAR) เพื่อตรวจสอบวัตถุบนเส้นทาง และเซ็นเซอร์อีกหลายหลายจุด เพื่อใช้รองรับการขับขี่แบบสปอร์ตที่ต้องการความรวดเร็ว
-
รถยนต์พลังงานไฟฟ้าไฮเปอร์ฟอร์ซ (Hyper Force) มีโหมดการขับขี่ 2 โหมด ได้แก่
- โหมดอาร์ R หรือโหมดแข่งรถ ที่ตกแต่งห้องโดยสารด้วยแสงสีแดงและขยายแผงหน้าปัดไปยังที่นั่งคนขับเพื่อเพิ่มความรู้สึกเหมือนอยู่ในห้องนักบิน
- โหมดจีที GT หรือเกรนด์ทัวร์ลิงก์ (Grand Touring) โดยหน้าจอและแผงหน้าปัดทั้งหมดจะเรืองแสงเป็นสีน้ำเงินและเคลื่อนออกจากที่นั่งคนขับ
-
ส่วนการออกแบบแผงหน้าปัดควบคุมตัวรถ ออกแบบมาคล้ายห้องนักบิน และอินเทอร์เฟซการใช้งานที่ใช้การออกแบบโดยความร่วมมือระหว่างบริษัท นิสสัน และบริษัท โพลีโฟนี ดิจิทัล (Polyphony Digital Inc.) ผู้พัฒนาเกมแกรน ทัวริสโม่ (Gran Turismo)
-
ปัจจุบันบริษัทยังไม่เปิดเผยแผนการวางจำหน่ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าไฮเปอร์ฟอร์ซ (Hyper Force) อย่างเป็นทางการ และยังคงเป็นเพียงแนวคิดการออกแบบที่อยู่ในระหว่างการพัฒนา อย่างไรก็ตาม บริษัท นิสสัน ได้วางเป้าหมายให้รถยนต์รุ่นนี้เป็น “สัญลักษณ์แห่งโลกอนาคต ที่รวบรวมจิตวิญญาณแห่งการก่อตั้งบริษัท ซึ่งกล้าที่จะทำในสิ่งที่คนอื่นไม่ทำ”
และนี่ก็คือรถยนต์ Hyper Force จากนิสสันที่เราอยากแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้จักในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นที่ชื่นชอบถูกใจคอยานยนต์กันทุกคน และหากมีความคืบหน้าประการใดเกี่ยวกับรถยนต์ตัวนี้อีก เราจะรีบมาอัพเดทให้ทุกท่านได้ทราบก่อนใครทันที