ร้าน 100 เยนอาจล่มสลาย จากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง

Must Read

สวัสดีคอธุรกิจทุกคน ครั้งนี้เรามีข่าวสำคัญจะแจ้งให้ทราบว่า ณ ช่วงเวลานี้อาจถึงคราวร้าน 100 เยนอาจล่มสลายแล้ว เพราะสภาพเศรษฐกิจโลก ซึ่งรายละเอียดเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร เรามาติดตามกันเลย

สรุปรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับประเด็นนี้ ได้ดังนี้

  • คงจะน่าเสียดายไม่น้อย ถ้าสภาพเศรษฐกิจจะค่อยๆ พังทลายร้านค้าที่ผู้คนคุ้นชินและหายออกไปจากตลาดเรื่อยๆ
  • ร้าน 100 เยนของญี่ปุ่นก็เป็นอีกแห่งหนึ่งที่กำลังจะตกอยู่ในสภาพเช่นนั้น หลังเงินเยนอ่อนค่าอย่างหนักหน่วง ราคาวัตถุดิบก็ถีบตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ ต้นทุนของการจัดซื้อต่างๆ ก็มีราคาสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
  • เรื่องต้นทุนสินค้าที่สูงขึ้นนี้ พนักงานร้าน 100 เยนยังพูดเองเลยว่า “เพราะว่ามันเป็นร้าน 100 เยน จึงทำให้ไม่สามารถขึ้นราคาได้”
  • จากการรายงานของ Teikoku Data Bank เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาพบว่า จำนวนร้าน 100 เยนในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นจากเดิม 7,687 แห่งในปี 2019 เป็น 8,400 แห่งในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มูลค่าการซื้อขายโดยรวมของร้านญี่ปุ่น 100 เยนนี้เพิ่มขึ้นจาก 72 แสนล้านเยนเป็น 9.5 แสนล้านเยนในปี 2021 ค่าเฉลี่ยในการใช้จ่ายต่อหัวสำหรับลูกค้าเพิ่มขึ้น 1.6 เท่าเมื่อเทียบกับสิบปีที่แล้ว จาก 390 เยนในปี 2011 เพิ่มเป็น 636 เยนในปี 2021
  • Hiroaki Watanabe นักวิเคราะห์โลจิสติกส์ระบุว่า ตอนนี้บริษัทกำลังได้รับผลกระทบจากบริษัทที่รับผลิตสินค้าซึ่งเป็นบริษัทต้นทางจากจีน จากเดิมที่มีต้นทุนต่ำ ตอนนี้ค่าแรงเพิ่มขึ้นก็ผลักให้ราคาสินค้าแพงตามไปด้วย ไม่ใช่แค่เรื่องนี้ที่ทำให้ราคาเพิ่มขึ้น แต่ยังมีปัจจัยราคาน้ำมันที่แพงขึ้น อัตราเงินเยนที่ต่ำลง ทำให้โมเดลธุรกิจทุกอย่าง 100 เยนน่าจะเป็นไปไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ต้นทุนการจัดซื้อส่งผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจสาขาที่มีขนาดกลางและขนาดเล็ก
  • หนึ่งในจุดอ่อนของร้าน 100 เยนก็คือไม่สามารถพัฒนาสินค้าภายในได้เอง ต้องพึ่งพาร้านขายส่งที่เป็นบริษัทที่อยู่แถวเมืองอี้หวู่ (Yiwu) ในมณฑลเจ้อเจียง เขาสามารถจัดซื้อสินค้าได้โดยตรง แต่ไม่สามารถจัดการกับราคาที่เพิ่มขึ้นได้
  • อย่างไรก็ดี ในปี 2000 ก็เคยมีตัวอย่างการขึ้นราคาจากร้าน 100 เยนอย่างร้าน Can Do มาก่อน ด้วยการขึ้นราคาสินค้าบางประเภท เช่น เครื่องหนีบผมไฟฟ้า หูฟังไร้สาย ขยับราคาขึ้นเป็น 300 เยน ทางโฆษก Can Do ก็บอกเองเลยว่า เราเริ่มขายสินค้าที่มีราคาแพงขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า พยายามลดและรักษาต้นทุนในการผลิตและจัดจำหน่ายเพื่อจะสามารถคงราคาสินค้า 100 เยนได้ต่อไป
  • ปีที่ผ่านมา ร้าน 100 เยนอย่าง Daiso ที่เปิดสาขาใหม่ในชิบูย่าก็ขายสินค้าที่มีคุณภาพสูงขึ้นด้วยราคา 330 เยนถึง 1,100 เยน ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ว่าโมเดลธุรกิจต่อไปก็คือการหาสินค้าที่มีคุณภาพสูงขึ้นและมีราคาสูงขึ้น
  • Bloomberg เผยมูลค่าตลาดของร้าน 100 เยนสูงถึง 7 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 4 แสนล้านบาทกำลังประสบปัญหาหลังต้นทุนเพิ่มสูงขึ้น แต่ร้านยังต้องจำกัดราคาไว้ที่ 100 เยนเช่นเดิม ทั้งภาวะเงินเฟ้อ ทั้งค่าเงินที่อ่อนค่า ต้นทุนด้านพลังงานที่สูงขึ้น ไหนจะค่าวัตถุดิบอีก จึงทำให้การคงอยู่ของโมเดลธุรกิจเช่นนี้ในภาวะแบบนี้มีความเป็นไปได้ยากสูงขึ้น ผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจ 100 เยนต่างพูดตรงกันว่าทำธุรกิจยุคนี้ค่อนข้างลำบาก
  • ในอดีต ร้าน 100 เยนอาจจะรับมือกับต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นด้วยการเปลี่ยนขนาด ปรับปริมาณ แต่ตอนนี้มันยากขึ้นทุกทางเพราะซัพพลายเออร์ต่างขึ้นราคากันทันทีหลังจากที่คงราคาเช่นเดิมมาเนิ่นนาน

และนี่ก็คือข่าวความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจด้านเศรษฐกิจจากแดนปลาดิบที่เราอยากแจ้งให้เพื่อนๆ ได้ทราบในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นที่ชื่นชอบถูกใจคอเจแปนกันทุกคน และหากมีข่าวความเคลื่อนไหวที่สำคัญๆ จากประเทศญี่ปุ่นอีก เราจะรีบอัพเดทให้ทุกท่านได้ทราบก่อนใครทันที

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

เผยรายงานคนไทยเผชิญ SMS หลอกลวงมากสุดในเอเชียปี 2566 จาก Whoscall

ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลเป็นสิ่งที่ไหลเวียนได้รวดเร็วที่สุด ประเด็นเรื่องความปลอดภัยสารสนเทศก็เป็นหัวข้อที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงอย่างต่อเนื่อง Whoscall, แอปพลิเคชั่นชั้นนำที่ช่วยในการระบุตัวตนของสายเรียกเข้าไม่ที่รู้จักและการป้องกันข้อความสแปม, ได้เปิดเผยรายงานประจำปี 2566 ที่แสดงให้เห็นว่าคนไทยตกเป็นเหยื่อของ SMS หลอกลวงมากกว่าใครในเอเชียด้วยจำนวนถึง 58 ล้านข้อความ แม้ว่าในภูมิภาคเอเชียโดยรวมจะพบว่าการหลอกลวงมีแนวโน้มลดลงจากการทำงานร่วมกันของภาครัฐและภาคเอกชน แต่ในประเทศไทยกลับพบว่ามีการเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ การหลอกลวงเหล่านี้รวมถึงการส่งข้อความที่มีลิงก์ปลอม, การหลอกลวงเกี่ยวกับการลงทุนและเว็บพนัน และการใช้ชื่อของหน่วยงานรัฐในการหลอกลวง การรายงานจาก Whoscall ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการรับข้อมูล พวกเขายังได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบ URL...
- Advertisement -

More Articles Like This