สาย USB-C to Lightning สามารถซ่อน Key Logger เพื่อดักเก็บข้อมูลทางไกลแบบไร้สายได้

Must Read

สวัสดีคอไอทีทุกคน วันนี้เรามีข่าวสำคัญจะแจ้งให้ทราบว่า เร็วๆ นี้ผู้เชี่ยวชาญพบว่าสายเคเบิล USB-C to Lightning สามารถซ่อน Key Logger แบบไร้สาย ไว้ดักจับข้อมูลจากระยะไกลไม่น้อยกว่า 1 ไมล์

รายละเอียดเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร ติดตามหาคำตอบได้ที่ด้านล่างนี้เลย

  • คงเป็นที่รู้กันว่าสายเคเบิล USB-C to Lightning ที่ใช้เป็นสายชาร์จแบตเตอรี่หรือถ่ายโอนข้อมูลให้กับ iPhone, iPad, Mac
  • อย่างไรก็ตามสิ่งที่คนส่วนมากไม่รู้ก็คือ USB-C to Lightning อาจกลายเป็นเครื่องมือของแฮกเกอร์ สำหรับดักจับข้อมูลทุกอย่างที่มีการป้อนผ่านคีย์บอร์ดได้จากระยะไกลถึง 1 ไมล์
  • เรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยจาก MG ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ที่ได้ให้ข้อมูลว่าสายเคเบิลประเภท Type C ที่มีขนาดเล็กมาก อาจไม่ปลอดภัยเสมอไป เพราะสามารถติดตั้ง Key Logger แบบไร้สาย ไว้ข้างในได้ โดยเรียกว่าสายเคเบิล OMG
  • สายเคเบิล OMG ทำงานโดยการสร้าง Wi-Fi hotspot ที่แฮกเกอร์สามารถเชื่อมต่อจากอุปกรณ์ของพวกเขาได้ และใช้อินเทอร์เฟซในเว็บเบราว์เซอร์ทั่วไป ช่วยให้แฮกเกอร์สามารถบันทึกข้อมูลของเหยื่อได้ผ่านการกดคีย์บอร์ด
  • นอกจากนี้สายเคเบิล OMG ยังถูกทดสอบว่าสามารถใช้งานเป็น Key Logger แบบไร้สาย ได้จริง จากการทดสอบในตัวเมืองโอ๊คแลนด์ พบว่าสามารถดึงข้อมูลจากระยะไกลได้ถึง 1 ไมล์ หรือราว 6 กิโลเมตร
  • จากการซ่อน Key Logger แบบไร้สาย ไว้ในสายเคเบิล USB-C to Lightning ก่อนหน้านี้ ยังมีการเปิดเผยว่า แฮกเกอร์สามารถดัดแปลงสายเคเบิล USB-C เพื่อใช้ควบคุมชิปความปลอดภัย T2 ใน Mac รุ่นใหม่ได้ด้วย

และนี่ก็คือข่าวความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจในแวดวงไอทีที่เราอยากแจ้งให้เพื่อนๆ ได้ทราบในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นที่ชื่นชอบถูกใจของคอไอทีทุกคน และหากมีเรื่องราวที่มีประโยชน์เช่นนี้อีก เราจะรีบมานำเสนอให้ทุกท่านได้ทราบโดยทันที

ที่มา

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

เผยรายงานคนไทยเผชิญ SMS หลอกลวงมากสุดในเอเชียปี 2566 จาก Whoscall

ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลเป็นสิ่งที่ไหลเวียนได้รวดเร็วที่สุด ประเด็นเรื่องความปลอดภัยสารสนเทศก็เป็นหัวข้อที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงอย่างต่อเนื่อง Whoscall, แอปพลิเคชั่นชั้นนำที่ช่วยในการระบุตัวตนของสายเรียกเข้าไม่ที่รู้จักและการป้องกันข้อความสแปม, ได้เปิดเผยรายงานประจำปี 2566 ที่แสดงให้เห็นว่าคนไทยตกเป็นเหยื่อของ SMS หลอกลวงมากกว่าใครในเอเชียด้วยจำนวนถึง 58 ล้านข้อความ แม้ว่าในภูมิภาคเอเชียโดยรวมจะพบว่าการหลอกลวงมีแนวโน้มลดลงจากการทำงานร่วมกันของภาครัฐและภาคเอกชน แต่ในประเทศไทยกลับพบว่ามีการเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ การหลอกลวงเหล่านี้รวมถึงการส่งข้อความที่มีลิงก์ปลอม, การหลอกลวงเกี่ยวกับการลงทุนและเว็บพนัน และการใช้ชื่อของหน่วยงานรัฐในการหลอกลวง การรายงานจาก Whoscall ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการรับข้อมูล พวกเขายังได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบ URL...
- Advertisement -

More Articles Like This