Google รายได้พุ่งหมื่นล้านดอลล์

Must Read

Jiradech Suchada
Jiradech Suchadahttps://www.itmoamun.com/
การตลาดออนไลน์ เทคโนโลยี ธุรกิจ Passive Income ทำตัวเป็น Blogger แถมกด Shutter รัวๆ แล้วออกไปปั่นๆ พร้อมทั้งเก็บเป็นเรื่องราวดีๆผ่านพื้นที่ตรงนี้ออกมาเป็นบทความ รูปภาพ วิดีโอ แบบเล่าสู่กันฟัง อย่าลืมมาติดตามกันนะครับ

Google, รายได้ Google กูเกิล (Google) ยักษ์ใหญ่โลกออนไลน์ประกาศรายรับรวมไตรมาส 3 ปี 2011 เพิ่มเป็นเฉียด 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ผลจากธุรกิจโฆษณาออนไลน์ของกูเกิลนอกพื้นที่สหรัฐฯโตวันโตคืน เผยผู้ใช้เครือข่ายสังคม Google+ ทะลุหลัก 40 ล้านคนแล้ว ขณะที่อุปกรณ์แอนดรอยด์ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 190 ล้านเครื่องทั่วโลก และนานาอุปกรณ์เคลื่อนที่ สามารถสร้างรายได้ให้กูเกิลถึง 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ตลอดเดือนกรกฎาคม-กันยายนที่ผ่านมา กูเกิลรายงานว่าสามารถทำยอดรายรับ 9.72 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 2.91 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้น 33% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว เมื่อหักลบค่าใช้จ่ายที่กูเกิลต้องชำระแก่พันธมิตรในธุรกิจโฆษณาออนไลน์ มูลค่าราว 2.21 พันล้านเหรียญ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ กูเกิลจะมีกำไรขั้นต้นราว 2.73 พันล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นจาก 2.17 พันล้านเหรียญที่เคยทำได้ในปีก่อน กำไรขั้นต้นในไตรมาส 3 ของกูเกิลนั้นคิดเป็นมูลค่าเฉลี่ย 8.33 เหรียญต่อหุ้น ถือว่าเพิ่มจาก 6.72 เหรียญต่อหุ้นในปีที่แล้ว ทั้งหมดนี้คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้น 33% เมื่อเทียบกับที่กูเกิลเคยทำได้ในปี 2010 ถือเป็นอัตราการเติบโตที่ใกล้เคียงกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ เช่นสถาบันทอมสันรอยเตอร์ส (Thomson Reuters) ที่เคยประเมินว่ากูเกิลจะมีรายได้เพิ่มขึ้นราว 32% กูเกิลให้ข้อมูลว่า โฆษณาบนหน้าเว็บของกูเกิลนั้นทำรายได้ให้กูเกิลเป็นสัดส่วน 69% เป็นมูลค่า 6.74 พันล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 39% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยจำนวนคลิกลิงก์โฆษณา (paid click) นั้นมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบกับปี 2010 (หากเทียบกับไตรมาส 2 ปีนี้ จะคิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้น 13% สำหรับธุรกิจโฆษณาจากระบบ Adsense หรือการเปิดให้เว็บไซต์อื่นสามารถติดโฆษณาของกูเกิลตามคำที่เกี่ยวข้อง สามารถสร้างรายได้ให้กูเกิลเป็นสัดส่วน 27% ของรายรับรวม คิดเป็นเงินมูลค่า 2.6 พันล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นเพียง 18% เบื้องต้นพบว่าราคาต่อคลิกของ Adsense นั้นเพิ่มขึ้น 5% จากปีที่แล้ว ปัจจุบัน กูเกิลมีพนักงานรวมทั้งสิ้น 31,353 คน ถูกว่าจ้างเพิ่มในไตรมาสที่ผ่านมาราว 2,585 คน (เพิ่มขึ้น 9%) รายได้จากพื้นที่นอกสหรัฐฯคิดเป็นสัดส่วน 55% ของรายได้รวม คาดว่าสัดส่วนดังกล่าวจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ***รายได้บนมือถือโต แลร์รี่ เพจ (Larry Page) ซีอีโอกูเกิลระบุว่า ปัจจุบันอุปกรณ์ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) ที่กูเกิลพัฒนาขึ้นนั้นเปิดใช้งานทั่วโลกแล้วมากกว่า 190 ล้านเครื่อง ทั้งหมดนี้มีส่วนผลักดันให้กูเกิลมีรายรับในตลาดอุปกรณ์พกพาเพิ่มขึ้นเป็น 2.5 พันล้านเหรียญในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วซึ่งกูเกิลเคยทำได้เพียง 1 พันล้านเหรียญเท่านั้น คาดว่าจะมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในปีถัดไป ทั้งหมดนี้ตอกย้ำว่าตลาดสมาร์ทโฟนคือ ยุทธศาสตร์ที่สำคัญของกูเกิล โดยก่อนหน้านี้ กูเกิลเคยประกาศว่าจำนวนผู้ใช้งานแอนดรอยด์รายใหม่นั้นเพิ่มขึ้นราว 550,000 เครื่องต่อวัน (ทั่วโลก) ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่า ตัวเลขดังกล่าวกำลังเพิ่มขึ้นเป็น 600,000 เครื่องต่อวัน ทั้งหมดนี้กูเกิลไม่มีส่วนได้เสียกับค่ายผู้ผลิตสมาร์ทโฟนเพราะเปิดให้ทุกคน ใช้งานแอนดรอยด์ได้ฟรี แต่เนื้อและน้ำที่กูเกิลจะได้รับไปเต็มๆคือค่าโฆษณาบนผู้ใช้หลายร้อยล้านคน ทั่วโลก ตัวเลขผลประกอบสวยงามนี้ทำให้นักลง ทุนมีความเชื่อมั่นกับการลงทุนของกูเกิลในโครงการที่ยังไม่เห็นแนวโน้มราย รับมากขึ้น โดยเฉพาะระบบกูเกิลพลัส (Google+) ซึ่งกูเกิลประกาศด้วยความดีใจว่ามียอดผู้ใช้เพิ่มขึ้นเป็น 40 ล้านคนจากเดิมที่มี 10 ล้านคนในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ล่าสุด เครือข่ายสังคมฝีมือกูเกิลได้เพิ่มความสามารถมากมายทั้งด้านการค้นหาและการ อัปเดทข้อมูลแบบเรียลไทม์ ซึ่งทั้งหมดยังต้องรอเวลาว่ากูเกิลวางหมากเพื่อโกยรายได้ในธุรกิจเครือข่าย สังคมอย่างไร อีกความเคลื่อนไหวที่สำคัญของกูเกิลในไตรมาสนี้ คือการประกาศปิดบริการของกูเกิลไปกว่า 20 บริการ ทั้งหมดนี้เพจยืนยันว่าทำไปเพื่อเพิ่มความคล่องตัวให้กูเกิล และการทุ่มเทพลังกายพลังใจในการบริหารกูเกิลนั้นเริ่มเห็นผลแล้วในขณะนี้ Company Related Link : Google

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

ปรับตัวใหม่! ตลาดหุ้นโลกและผลการประชุมธนาคารกลางส่งสัญญาณอะไรบ้าง?

สัปดาห์นี้เราเห็นการเคลื่อนไหวใหญ่ในตลาดหุ้นทั่วโลก ที่มาพร้อมกับการตัดสินใจสำคัญจากธนาคารกลางหลายแห่ง ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงดอกเบี้ยไปจนถึงการอัปเดตเศรษฐกิจที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่น่าสนใจคือ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ได้ให้สัญญาณว่าอาจจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ตามด้วยธนาคารกลางสวิสฯ ที่เริ่มต้นด้วยการลดดอกเบี้ยลง 0.25% เป็นการตอบสนองต่อเงินเฟ้อที่ลดลง ในอีกด้านของโลก, ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ก็ทำการปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี ขณะที่ยังคงนโยบายการซื้อพันธบัตร เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจในขณะนี้...
- Advertisement -

More Articles Like This