ทุกคนที่ใช้แอป Google หรือเปิดหน้าแรก Chrome บนมือถือเป็นประจำ น่าจะคุ้นเคยกับ Google Discover ดีใช่ไหมครับ? มันคือฟีดข่าวที่เราเลื่อนดูได้เพลินๆ โดยไม่ต้องพิมพ์ค้นหาอะไรเลย ซึ่งที่ผ่านมา เราก็จะเห็นพาดหัวข่าว (Headline) ตรงๆ ตามที่เว็บไซต์ต้นฉบับเค้าเขียนมานั่นแหละ
แต่พักหลังมานี้ (และมีรายงานจากสื่อสายเทคอย่าง Engadget) Google เค้ากำลังทดลองอะไรที่น่าสนใจสุดๆ นั่นคือการให้ “AI-generated headlines” หรือ “พาดหัวที่เขียนโดยปัญญาประดิษฐ์” มาทำหน้าที่แทนคน!
ฟังดูเหมือนดีโคตรๆ AI น่าจะสรุปใจความมาให้กระชับ อ่านง่าย เหมาะกับยุคเร่งรีบ! แต่… จากการทดลองใช้งานจริง มันกลับไม่เป็นแบบนั้นเลยครับ! Engadget เค้าฟันธงว่าส่วนใหญ่ “ไม่เวิร์ก” ทั้งคุณภาพ ความน่าเชื่อถือ และที่หนักสุดคือบางทีมันทำให้คนอ่านเข้าใจเนื้อหา ผิดเพี้ยน ไปจากที่ต้นฉบับต้องการสื่อเลยด้วยซ้ำ! 😱
ในฐานะที่เราเป็นทั้งคนอ่านข่าวตัวยง เป็นคนทำคอนเทนต์ และคนทำ SEO/เว็บ ที่ต้องง้อ Traffic จาก Google เรื่องนี้มันไม่ใช่แค่เรื่องเล่นๆ แล้วครับ มันคือเรื่องของการสื่อสารและ Brand Trust เลยนะ! ผมเลยอยากชวนมาคุ้ยแคะแกะเกากันแบบบ้านๆ ว่า AI มันมาก่อกวนพาดหัวข่าวของเรายังไงบ้าง แล้วเราต้องรับมือกับมันยังไงดี
🔎 Google Discover คืออะไร? ขอแบบภาษาคนคุยกัน
ถ้าจะพูดให้ง่ายที่สุด Google Discover ก็คือ “ฟีด Home” ของ Google นั่นแหละครับ แต่มันไม่ได้โชว์เพื่อนมาอวดรูปอาหาร แต่โชว์คอนเทนต์ที่ Google คิดว่า “เราน่าจะสนใจ” โดยอิงจากพฤติกรรมการค้นหาและการคลิกอ่านของเราเป็นหลัก เช่น ถ้าเราชอบดูรีวิว iPhone, ติดตามหุ้น Tesla, หรือบ้าซีรีส์เกาหลี มันก็จะเสิร์ฟคอนเทนต์แนวๆ นี้มาให้เราเห็นแบบจังๆ
หัวใจสำคัญของ Discover คือ พาดหัวข่าว (Headline) และ รูปปก (Thumbnail) ครับ! สองอย่างนี้แหละที่เป็นตัวตัดสินชี้เป็นชี้ตายว่าเราจะ “ปัดผ่าน” หรือ “กดอ่าน” และนี่คือจุดที่ AI กำลังเข้ามาเล่นงาน!
-
แบบเดิม: Google มักจะดึงพาดหัวตามที่เว็บต้นทางตั้งมา (อาจมีการปรับนิดหน่อย)
-
แบบใหม่ (ทดลอง): AI จะเข้ามา “สร้างหัวใหม่” ให้เลย หรือไม่ก็ “สรุปสั้นๆ” ใต้พาดหัวต้นฉบับให้เราดูเพิ่ม (เหมือนพยายามแย่งซีนคนเขียนหัวข่าวไปดื้อๆ)
🤖 AI มันเข้ามา “ปั่น” หัวข้อข่าวเราได้ยังไง? (แบบที่คนทั่วไปจะเจอ)
จากที่หลายคนสังเกตและจากรายงานของ Engadget มันมีรูปแบบที่ AI เข้ามาแทรกแซงอยู่หลายแบบครับ:
-
โชว์หัวเดิม, เพิ่มสรุป AI: แสดงพาดหัวต้นฉบับเรา แต่มีข้อความสั้นๆ “สรุปสั้นโดย AI” แปะอยู่ข้างล่าง หรืออยู่บนการ์ดเลย
-
เปลี่ยนหัวไปเลย: บางการ์ด AI จัดการเปลี่ยนพาดหัวให้เป็นเวอร์ชันที่ตัวเองเขียนใหม่ทั้งหมด เหมือนเอาเนื้อหาไปอ่านแล้วแต่งเรื่องใหม่
-
เก็บใจความสำคัญ: ใช้ Generative AI ดึง “Key Takeaways” จากบทความยาวๆ มาเป็นไฮไลท์บนการ์ด (คล้ายๆ SGE หรือฟีเจอร์สรุปบนหน้า Search ที่กำลังมาแรง)
ปัญหาคือ ไอ้ที่ AI สร้างออกมาเนี่ย “มันฟังดูเหมือนถูก” นะ… แต่จริงๆ แล้วอาจจะ ไม่ตรงประเด็น หรือ จับใจความผิด ไปคนละเรื่องเลย! ลองนึกภาพว่าเราเขียนเรื่องซีเรียสทางการเมือง แต่ AI สรุปออกมาเหมือนเป็นเรื่องตลกขำๆ ดูสิครับ!
🚩 ทำไมคนทำคอนเทนต์ถึงต้องกุมขมับ? (ประสบการณ์จาก Engadget)
จากการที่ทีมงาน Engadget เค้าทดลองไถฟีด Discover แบบสังเกตอาการหัวข้อข่าวจาก AI เค้าเจอปัญหาหลักๆ ที่น่าปวดหัวมากๆ ครับ:
-
จับประเด็นหลักไม่ได้: บทความดีๆ มีสาระหลายเลเยอร์ AI ดันหยิบแค่ประเด็นยิบย่อยมุมเดียวมาสรุป จนคนอ่านเข้าใจว่าเรื่องนี้มันพูดถึงแค่นั้น ทั้งที่เนื้อหาหลักๆ สำคัญกว่าเยอะ
-
หัวข้อจืดชืด ไร้เสน่ห์: พาดหัวที่คนเขียนมันต้องมีสไตล์ มีการเล่นคำ มีมุมมองเฉพาะตัว แต่พอ AI เขียนปุ๊บ… กลายเป็นประโยคกลางๆ บ้านๆ เช่น “ทุกสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับ…” หรือ “5 เหตุผลที่คุณไม่ควรพลาด…” ที่อ่านแล้วไม่ได้มีความรู้สึกว่าต้องรีบกดเข้าไปอ่านเลย
-
โทนภาษาผิดเพี้ยน: เว็บหลายเจ้ามี Brand Voice ชัดเจน เช่น เว็บขำๆ ก็ใช้ภาษาตลก, เว็บวิชาการก็ต้องจริงจัง แต่พอ AI มาสรุป โทนก็กลายเป็นกลางๆ เรียบๆ จน “ความเป็นแบรนด์” มันหายวับไปกับตา
-
ความเสี่ยงที่จะเข้าใจผิด: อันนี้แหละที่น่ากลัวสุด! ถ้า AI ตีความบริบทผิดพลาด เช่น เรื่องละเอียดอ่อน, เรื่องเทคนิคซับซ้อน หรือเรื่องการแพทย์ พาดหัวที่ออกมาอาจจะแปลกประหลาดจนชวนเข้าใจผิดได้ง่ายมากๆ จนอาจนำไปสู่การเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนได้เลย
📢 ผลกระทบวงกว้าง: “คนอ่าน” และ “คนทำเว็บ” โดนอะไรบ้าง?
1. ในมุมคนอ่าน (User):
-
ความเชื่อใจสั่นคลอน: เรามักจะเชื่อว่าพาดหัวที่เห็นใน Discover คือสิ่งที่เว็บต้นทางตั้งใจสื่อสาร ถ้า AI เขียนผิดๆ บ่อยๆ คนอ่านก็จะเริ่มรู้สึกว่า “เว็บนี้ Clickbait” ทั้งที่จริงๆ เว็บไม่ได้ตั้งใจเลยนะ! และความเชื่อใจต่อ Discover เองก็อาจลดลงด้วย
-
ข้อมูลไม่ครบถ้วน: คนส่วนใหญ่อ่านแค่พาดหัว + สรุป AI โดยไม่กดเข้าไปอ่านเนื้อหาจริง ทำให้ได้รับข้อมูลที่ “ครึ่งๆ กลางๆ” และมีโอกาส ผิดบริบทสูง
2. ในมุมเจ้าของเว็บ / สาย SEO / Content Creator:
-
CTR (Click-Through Rate) อาจดิ่ง: เราตั้งใจเขียนหัวข้อที่กระตุ้นการคลิกแล้ว แต่ AI ดันไปโชว์หัวที่จืดชืดกว่า… แน่นอนว่ายอด Traffic ที่มาทาง Discover อาจลดลงอย่างน่าใจหาย
-
Brand Voice หายไป: เมื่อ AI เข้ามาคุมพาดหัว ความเป็นตัวตนของเว็บที่สื่อสารผ่านภาษาและโทนเสียงก็อาจจางหายไป ซึ่งส่งผลต่อการจดจำแบรนด์ระยะยาว
-
ความเสี่ยงด้านการสื่อสารผิดพลาด: หาก AI สรุปผิดแล้วคนเข้าใจผิด นั่นหมายความว่าคนจะจำภาพผิดๆ นั้นในนามของแบรนด์เรา ซึ่งแก้ไขได้ยากมาก
🎯 เราจะรับมือกับ AI จอมป่วนนี้ยังไงดี? (แบบภาษาคนใช้)
ก่อนที่ Google จะพัฒนา AI ให้ฉลาดกว่านี้มาก (ซึ่งส่วนตัวผมเชื่อว่าเค้าไม่หยุดแน่นอน) ในฐานะคนใช้งานและคนทำคอนเทนต์ เราควรตั้งการ์ดรับมือไว้ก่อนครับ:
-
สำหรับคนอ่าน:
-
อย่าเชื่อแค่หัวข้อ: ถ้าเรื่องไหนสำคัญมากๆ กับเรา ให้กดเข้าไปอ่านเนื้อหาข้างในเลยครับ อย่าจบแค่การ์ดบน Discover
-
มองหาแหล่งข่าวอื่น: อย่าพึ่งพิงหัวข้อจาก Discover แค่เจ้าเดียว ลองเปิด Google Search หรือหาจากเว็บอื่นดูด้วย เพื่อให้ได้มุมมองที่ครบถ้วน
-
สังเกตความแปลก: ถ้าพาดหัวข่าวดูเรียบๆ แบนๆ หรือใช้ภาษาที่ดูคลุมเครือมากๆ ให้สงสัยไว้ก่อนเลยว่านี่อาจจะเป็นผลงานของ AI ไม่ใช่ความตั้งใจของคนเขียน
-
-
สำหรับคนทำเว็บ / Blogger / SEO:
-
ตั้งชื่อให้เคลียร์สุดๆ: นอกจากตั้งให้ชวนคลิกแล้ว ต้อง ชัดเจน ในประเด็นหลักด้วย เพื่อเป็นหลักยึดให้ AI สรุปได้ไม่ผิดเพี้ยน
-
มอนิเตอร์ Discover: พยายามเช็คว่าคอนเทนต์ของเราไปโผล่ใน Discover ด้วยหัวข้อแบบไหนบ้าง ถ้าเจอที่ผิดเพี้ยน จะได้เข้าใจพฤติกรรมของผู้อ่านที่เข้ามา
-
คุม Brand Narrative เอง: อย่าฝากทุกอย่างไว้ที่ AI สรุป ให้ใช้ช่องทางโซเชียลมีเดีย หรือ E-mail Newsletter เพื่อสื่อสารใจความสำคัญและโทนของแบรนด์ด้วยตัวเองโดยตรง
-
สุดท้ายแล้ว การที่ Google เอา AI มาช่วยเขียนพาดหัวไม่ใช่เรื่องผิดเลยครับ แต่มันขึ้นอยู่กับ “คุณภาพ” และ “ความรับผิดชอบ” ในการใช้งานมากกว่า ซึ่ง ณ ตอนนี้ กรณีของ Google Discover ก็ยังอยู่ในโซน “ต้องปรับปรุงอย่างหนัก” ตามที่สื่อสายเทคอย่าง Engadget ได้ออกโรงฟันธงไว้
❓ FAQ 3 ข้อที่คนอยากรู้เรื่อง AI Headline บน Google Discover
Q1: จะรู้ได้ไงว่าหัวข้อไหนมาจาก AI? A1: ตอนนี้ Google ยังไม่ได้แปะป้ายชัดเจนทุกเคสครับ! แต่เราต้องอาศัยการสังเกต ถ้าพาดหัวหรือข้อความสรุปสั้นๆ ด้านล่างมันดู กลางๆ คลุมเครือ ใช้ภาษาที่ แบนๆ ไร้เสน่ห์ หรือรู้สึกว่า ไม่ตรงกับสไตล์ของเว็บนั้นเลย โอกาสสูงมากว่านั่นคือผลงานของ AI ที่พยายามสรุปออกมาให้ แต่ทางที่ดีที่สุดคือลองคลิกเข้าไปอ่านเนื้อหาจริงเพื่อเปรียบเทียบดูครับ
Q2: เราในฐานะคนอ่าน ปิดฟีเจอร์ AI-generated headlines ได้ไหม? A2: น่าเสียดายที่ตอนนี้ยังปิดไม่ได้แบบเจาะจงครับ! ฟีเจอร์นี้ยังเป็นแค่การทดลอง (กับผู้ใช้บางกลุ่มในบางพื้นที่) เราทำได้แค่ปรับการใช้งาน Discover โดยรวมเท่านั้น เช่น ปิดไม่ให้แนะนำหัวข้อที่เราไม่สนใจ หรือถ้าไม่ชอบเลยก็ปิดฟีด Discover ทั้งหมดไปเลย แต่ยังไม่มีปุ่มให้เลือกปิดแค่ “หัวข้อที่ AI เขียน” โดยเฉพาะครับ
Q3: คนทำเว็บ/Blogger ต้องทำยังไงเพื่อรับมือกับ AI Headline? A3: สิ่งที่คุณต้องทำคือ เน้นคุณภาพเนื้อหาและความชัดเจนเป็นหลัก!
-
เขียนพาดหัวให้ชัดเจนที่สุด: อย่าเล่นคำจน AI งง ต้องมี Key หลักของเรื่องในหัวข้อที่ชัดเจน
-
มอนิเตอร์และรับฟังฟีดแบค: คอยเช็คว่าพาดหัวที่คุณตั้งใจเขียน กับพาดหัวที่ไปโผล่ใน Discover มันตรงกันไหม ถ้าไม่ตรงและมีคนเข้าใจผิดเยอะ คุณต้องไปแก้ไขปรับปรุงการสื่อสารในบทความของคุณ
-
สร้างความผูกพันกับผู้อ่าน: อย่าพึ่งพาแค่ Traffic จาก Discover ใช้ช่องทางอื่นๆ เช่น โซเชียลมีเดีย, Name, Names of Personal Location, Specific หรือ E-mail เพื่อสร้างความผูกพันและคุมโทนการสื่อสารของแบรนด์ให้ได้มากที่สุดครับ



