Intel อ้างว่าชิป Core i9 มีประสิทธิภาพสูงกว่าชิป M1 Max ของค่ายแอปเปิ้ล

Must Read

สวัสดีคอไอทีทุกคน วันนี้เรามีข่าวสำคัญจะแจ้งให้ทราบว่า ล่าสุด Intel ได้ออกมาเคลมชิปว่า Core i9 สำหรับแล็ปท็อปรุ่นใหม่ มีประสิทธิภาพที่ดีกว่าชิป M1 Max ของ Apple ซึ่งรายละเอียดเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร ติดตามหาคำตอบได้ที่ด้านล่างนี้เลย

สรุปข้อมูลและรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้ดังนี้

  • เร็วๆ นี้ Intel ได้ทำการเปิดตัวชิปรุ่นที่ 12 (12th-generation) ที่ออกแบบมาสำหรับคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปไป และทาง Intel ก็ได้ทำการเคลมว่าชิปใหม่ Core i9-12900HK นี้ไม่ได้เร็วกว่าชิป M1 Max ของ Apple เท่านั้น แต่ยังเร็วกว่าชิปประมวลผลของอุปกรณ์พกพาทั้งหมดอีกด้วย
  • ชิป Intel Core i9 รุ่นใหม่นี้ จะมาพร้อมกับ CPU แบบ 14 คอร์ ประกอบไปด้วย คอร์ประสิทธิภาพสูง 6 คอร์ และคอร์ประหยัดพลังงาน 8 คอร์ ซึ่งเทียบกับชิป M1 Max ที่มี CPU แบบ 10 คอร์ ประกอบด้วย คอร์ประสิทธิภาพสูง 8 คอร์ และคอร์ประหยัดพลังงาน 10 คอร์ ทางชิป Core i9 จะมีจำนวน CPU ที่เยอะกว่า
  • ชิประดับไฮเอนด์ของ Intel นั้นมาพร้อม Turbo Boost สูงถึง 0GHz แต่มีการใช้พลังงานสูงถึง 115 วัตต์ ซึ่งทางชิป M1 Max นั้นประหยัดพลังงานมากกว่า รวมถึงส่งผลให้อุณหภูมิของตัวอุปกรณ์ไม่สูง
  • ทาง Intel ได้ทำการแชร์ผลประสิทธิภาพของชิป Intel Core i9-12900HK ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีประสิทธิภาพที่สูงกว่า M1 Max ที่สามารถเร่งประสิทธิภาพได้สูงถึง 150% แต่อย่างไรก็ตามชิป M1 Max ก็ยังทำได้ดีในด้านประหยัดพลังงานมากกว่า
  • ชิปรุ่นที่ 12 (12th-generation) ของ Intel ทั้งหมด 28 รุ่น รวมถึงตัวเลือก Core i7 และ Core i5 ระดับกลางและระดับล่าง ตอนนี้ได้เข้าสู่กระบวนการผลิตขั้นสุดท้ายแล้ว และอุปกรณ์ที่ใช้ชิปเหล่านี้จะถูกเปิดตัวในปีนี้

และนี่ก็คือข่าวที่น่าสนใจเกี่ยวกับชิป Core i9 ที่เราอยากอัพเดทให้เพื่อนๆ ได้ทราบในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่คอไอทีทุกคน เพราะมันคงจะเป็นอีกหนึ่งข้อมูลสำคัญสำหรับใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกซื้ออุปกรณ์ไอทีในอนาคตไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน

ที่มา

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก: ผลกระทบจาก Fed, ราคาน้ำมัน

ตลาดหุ้นทั่วโลกประสบกับการปรับตัวลดลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ภายใต้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันพบกับความผันผวน โดยมีการเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อน และลดลงในวันที่ 8 เมษายน หลังการเจรจาหยุดยิงในตะวันออกกลาง ทองคำก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน เหตุการณ์แผ่นดินไหวในไต้หวันส่งผลกระทบจำกัดต่ออุตสาหกรรมผลิตชิป และตลาดหุ้นจีนได้รับประโยชน์จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด เงินเฟ้อในยุโรปก็แสดงถึงการลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่การลดดอกเบี้ยจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในเดือนมิถุนายน ด้านผู้จัดการกองทุนต่างคาดการณ์ว่าตลาดโดยรวมจะแกว่งตัวตามข้อมูลเงินเฟ้อและผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐฯ ภาพรวมตลาดที่ผ่านมาแกว่งตัวในแนวข้าง...
- Advertisement -

More Articles Like This