MarCom กับ MarTech สำหรับการทำตลาดในปัจจุบัน

Must Read

Jiradech Suchada
Jiradech Suchadahttps://www.itmoamun.com/
การตลาดออนไลน์ เทคโนโลยี ธุรกิจ Passive Income ทำตัวเป็น Blogger แถมกด Shutter รัวๆ แล้วออกไปปั่นๆ พร้อมทั้งเก็บเป็นเรื่องราวดีๆผ่านพื้นที่ตรงนี้ออกมาเป็นบทความ รูปภาพ วิดีโอ แบบเล่าสู่กันฟัง อย่าลืมมาติดตามกันนะครับ

ผมเองอาจจะมีความคุ้นเคยในส่วนของ MarTech มากพอสมควร แต่จริงๆแล้ว การตลาดต้องมีการผสมผสานระหว่างสองฝั่งจากทั้ง MarCom และ MarTech ไปด้วยกัน ผมเลยชวนมาทำความรู้จัก MarCom (Marketing Communications) และ MarTech (Marketing Technology) เป็นสองคำสำคัญที่มักถูกใช้แทนกันได้ แต่จริงๆ แล้วมีความหมายต่างกัน MarCom หมายถึงการสื่อสารการตลาดทั้งหมดที่องค์กรใช้เพื่อเข้าถึงและมีส่วนร่วมกับลูกค้า ในขณะที่ MarTech หมายถึงซอฟต์แวร์และเครื่องมือที่ใช้เพื่อจัดการและวัดผลการสื่อสารการตลาด

MarCom ประกอบด้วยองค์ประกอบต่างๆ เช่น การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ การส่งเสริมการขาย การตลาดทางตรง และการตลาดดิจิทัล MarTech ประกอบด้วยเครื่องมือต่างๆ เช่น ซอฟต์แวร์ CRM ซอฟต์แวร์การตลาดอัตโนมัติ ซอฟต์แวร์การวิเคราะห์การตลาด และซอฟต์แวร์การตลาดดิจิตอล

ในปัจจุบัน การทำตลาด (Marketing) ได้ก้าวไกลขึ้นด้วยการใช้เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สองคำที่คุ้นเคยที่เกี่ยวข้องกับการทำตลาดในยุคปัจจุบันคือ MarCom และ MarTech ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากในการสร้างกลยุทธ์การตลาดเพื่อให้ธุรกิจเติบโตและสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ดังนี้:

  • MarCom (Marketing Communications): MarCom หมายถึงกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารเพื่อเสริมสร้างความรู้สึกและความตั้งใจให้กับกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งประกอบด้วยหลายช่องทางเช่น โฆษณา (Advertising) การส่งเสริมการขาย (Sales Promotion) การประชาสัมพันธ์ (Public Relations) การตรวจสอบตลาด (Direct Marketing) และการสื่อสารในสังคมออนไลน์ (Social Media Marketing) เป็นต้น การใช้ MarCom จะช่วยเสริมสร้างและสร้างความจำ impression ให้กับผู้บริโภคเพื่อส่งเสริมให้ตัดสินใจในการซื้อสินค้าหรือบริการของธุรกิจนั้นๆ
  • MarTech (Marketing Technology): MarTech หมายถึงเทคโนโลยีที่ใช้ในกระบวนการทำการตลาด เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและเป้าหมายการตลาด ซึ่งส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล โปรแกรมคอมพิวเตอร์ และแอปพลิเคชันออนไลน์ เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลลูกค้า (Customer Data) วิเคราะห์และประมวลผลข้อมูล (Data Analytics) ติดตามและวัดผลการตลาด (Marketing Automation) การจัดการแคมเปญออนไลน์ (Digital Campaign Management) การเข้าถึงลูกค้าผ่านช่องทางดิจิทัล (Digital Customer Engagement) และหลายๆ อย่างอื่นๆ การใช้ MarTech ช่วยให้ธุรกิจสามารถเลือกใช้กลยุทธ์การตลาดที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย และนำข้อมูลเชิงลึกไปใช้ในการตัดสินใจการทำธุรกิจอย่างมีมูลค่าและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

การทำตลาด, MarCom, MarTech, กลยุทธ์การตลาด, โฆษณา, วิเคราะห์ข้อมูล, การสร้างความสำเร็จในการทำการตลาด

ตัวอย่างของวิธีการที่ MarCom และ MarTech ทำงานร่วมกัน

  • องค์กรอาจใช้ MarCom เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ จากนั้นใช้ MarTech เพื่อวัดผลความสำเร็จของแคมเปญการตลาดและปรับแต่งแคมเปญสำหรับอนาคต
  • องค์กรอาจใช้ MarCom เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า จากนั้นใช้ MarTech เพื่อติดตามพฤติกรรมของลูกค้าและส่งข้อความการตลาดที่ปรับแต่งให้เหมาะกับความต้องการของลูกค้า
  • องค์กรอาจใช้ MarCom เพื่อสร้างประสบการณ์ของลูกค้าที่ยอดเยี่ยม จากนั้นใช้ MarTech เพื่อวัดผลความพึงพอใจของลูกค้าและปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า

การนำ MarCom และ MarTech มาใช้ร่วมกันจะช่วยให้ธุรกิจสามารถเปิดโอกาสในการสร้างและสร้างความสำเร็จในการทำการตลาดในยุคดิจิทัลและเติบโตอย่างยั่งยืนในสภาพแวดล้อมธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การใช้ MarCom และ MarTech ให้เหมาะสมและอย่างมีประสิทธิภาพนั้นเป็นที่สำคัญในการดำเนินกิจการในปัจจุบัน ลองนำไปปรับใช้กันดู แต่บอกไว้ก่อนเลยว่าองค์กรที่มีสองหน่อยงานแบบชัดเจนนี่อาจจะพบในองค์กรใหญ่ๆเป็นส่วนใหญ่ เพราะในความเป็นจริงเรามักจะพบว่ามีการใช้งานร่วมกันของทรัพยากร เช่นการนำคน MarCom มาทำ MarTech ด้วย หรืออาจจะมีส่วนเล็กน้อยที่เอาคน MarTach มาทำ MarCom ซึ่งไม่ได้มีอะไรผิด ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมกันเลยครับ

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก: ผลกระทบจาก Fed, ราคาน้ำมัน

ตลาดหุ้นทั่วโลกประสบกับการปรับตัวลดลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ภายใต้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันพบกับความผันผวน โดยมีการเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อน และลดลงในวันที่ 8 เมษายน หลังการเจรจาหยุดยิงในตะวันออกกลาง ทองคำก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน เหตุการณ์แผ่นดินไหวในไต้หวันส่งผลกระทบจำกัดต่ออุตสาหกรรมผลิตชิป และตลาดหุ้นจีนได้รับประโยชน์จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด เงินเฟ้อในยุโรปก็แสดงถึงการลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่การลดดอกเบี้ยจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในเดือนมิถุนายน ด้านผู้จัดการกองทุนต่างคาดการณ์ว่าตลาดโดยรวมจะแกว่งตัวตามข้อมูลเงินเฟ้อและผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐฯ ภาพรวมตลาดที่ผ่านมาแกว่งตัวในแนวข้าง...
- Advertisement -

More Articles Like This