ช่วงนี้วงการดิจิทัลเดือดจริงอะไรจริง! โดยเฉพาะเรื่อง “ความเป็นส่วนตัว” (Privacy) ของพวกเราผู้ใช้งานอย่างเรา ๆ รอบนี้ถึงคิวพี่ใหญ่อย่าง Meta (เจ้าของ Facebook และ Instagram) ที่ยอมอ่อนข้อให้กับกฎหมายเข้ม ๆ ของฝั่งยุโรป (EU) แบบต้องถอยหลังตั้งหลักกันใหม่เลยทีเดียว
ก่อนหน้านี้มีดราม่าหนักมากเรื่องที่ Meta พยายามใช้โมเดลที่เรียกกันว่า “consent or pay” หรือภาษาบ้าน ๆ ก็คือ “ยอมให้ตามตัว (เก็บข้อมูลไปยิงโฆษณา) หรือไม่ก็จ่ายตังค์” นั่นแหละค่ะ คือถ้าใครไม่อยากให้ Meta เอาข้อมูลพฤติกรรมส่วนตัวไปใช้ทำโฆษณาแบบเจาะจง ก็ต้องยอม “สมัครแพ็กเกจแบบเสียเงิน ไม่มีโฆษณา” ไปเลย ซึ่งมันก็ขัดกับความรู้สึกของคนส่วนใหญ่ที่มองว่า “เราใช้ฟรีมาตลอด ทำไมต้องมาเลือกจ่ายเพื่อแลกกับความเป็นส่วนตัวที่เราควรมีแต่แรกด้วย?”
NGO และองค์กรด้านสิทธิส่วนบุคคลในยุโรปก็ออกมาโวยวายหนักมากว่า นี่มันคือการ “บีบบังคับ” ให้คนต้องยอมแชร์ข้อมูลชัด ๆ เพราะใคร ๆ ก็อยากใช้ฟรี ถูกไหมคะ?
🚨 EU ไม่ทน! กฎหมาย DMA บีบจน Meta ต้องยอมเปลี่ยนเกม
ฝั่งสหภาพยุโรป (EU) ก็มองว่าโมเดล “ยอมให้ตาม หรือไม่ก็จ่าย” เนี่ย มันขัดกับกฎหมายใหม่ที่โคตรโหดและรอบด้านอย่าง Digital Markets Act (DMA) เพราะมันไม่ได้ให้ “สิทธิเลือกอย่างแท้จริง” กับผู้ใช้ไงคะ
ผลก็คือ… Meta โดนปรับอ่วมไปกว่า 200 ล้านยูโร! (คิดเป็นเงินไทยก็หลักพันล้านบาท!) แถมยังโดนเตือนว่าถ้ายังดื้อไม่แก้ไขโมเดลโฆษณาและการจัดการข้อมูลส่วนตัวให้สอดคล้องกับ DMA อีก จะโดนปรับรายวัน! ใครจะทนไหวล่ะคะ?
สุดท้ายด้วยแรงกดดันและค่าปรับที่พุ่งไม่หยุด Meta เลยต้องยอม “ปรับเกมใหม่” เพื่อให้ผู้ใช้ Facebook และ Instagram ในกลุ่มประเทศ EU สามารถเลือกได้ 2 แบบอย่างแท้จริง ดังนี้:
1. ยอมแชร์ข้อมูลเต็มที่ (แบบเดิม)
-
Meta ยังใช้ข้อมูลพฤติกรรมเราได้เต็มที่ เช่น เรากดไลก์เพจไหน, ติดตามใคร, ดูคลิป Reels อะไร, กดเข้าลิงก์โฆษณาไหนบ้าง
-
โฆษณาที่เห็นจะเป็นแบบ “โคตรตรงตัว” (Personalized Ads) คือแม่นยำมากจนบางทีเราก็แอบตกใจว่า “รู้ได้ไงวะ!?”
2. เลือกแชร์ข้อมูลน้อยลง (ลดการติดตามตัว)
-
นี่คือทางเลือกใหม่! Meta จะเก็บและใช้ข้อมูลส่วนตัวของเรา “น้อยลงมาก”
-
สำคัญ: เรา ยังใช้ฟรีได้ ไม่ได้ถูกบังคับให้จ่ายเงินเหมือนโมเดลเก่า
-
โฆษณาที่เห็นจะ ไม่เจาะจง เราขนาดเดิม อาจเป็นโฆษณาทั่วไปตามหมวดหมู่กว้าง ๆ หรือบริบท (เช่น โฆษณาภาษาไทย, โฆษณาสำหรับคนในประเทศนี้) แต่ไม่ลึกถึงระดับพฤติกรรมการดู-ซื้อส่วนตัวของเรา
ระบบใหม่นี้จะเริ่มทยอยให้ผู้ใช้ใน EU เห็นเป็นหน้าจอแจ้งเตือน/ป็อปอัปให้กดเลือกอย่างชัดเจน ตั้งแต่ เดือนมกราคม 2026 เป็นต้นไปค่ะ
🇹🇭 ทำไมเรื่องนี้ถึงเป็น “สัญญาณ” ที่คนไทยต้องจับตา?
แน่นอนว่าตอนนี้ Meta ประกาศใช้แค่กับผู้ใช้ใน EU แต่บอกเลยว่าเรื่องนี้ “ใหญ่มาก” และเป็นเหมือน “พรีวิวอนาคต” ที่จะส่งผลกระทบถึงคนไทยและธุรกิจดิจิทัลทั่วโลกในอนาคตค่ะ
1. Meta ยอมอ่อนข้อให้ “สิทธิเลือกจริง ๆ”
การที่แพลตฟอร์มโซเชียลยักษ์ใหญ่ขนาดนี้ยอมออกแบบเวอร์ชัน “แชร์ข้อมูลน้อยลง” แถมยังให้ใช้ฟรีได้อยู่ แปลว่าพวกเขายอมรับแล้วว่า ผู้ใช้มี “สิทธิเลือก” ที่แท้จริง ไม่ใช่ถูกบีบให้เลือก นี่คือจุดเปลี่ยนที่สำคัญสุด ๆ ที่แสดงให้เห็นว่า Privacy First กำลังมาแรงแบบไม่แคร์ใคร
2. EU คือต้นแบบกฎหมายดิจิทัลของโลก
ยุโรปมีกฎหมายดิจิทัลที่เข้มข้นที่สุดในโลก ทั้ง GDPR, DSA, และ DMA ถ้าโมเดล “ให้เลือกแชร์ข้อมูลน้อยลง” นี้มันใช้งานได้ดี ผู้ใช้แฮปปี้ ธุรกิจก็ยังไปต่อได้ เชื่อขนมกินได้เลยว่าประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก (รวมถึงในเอเชียบ้านเราด้วย) จะเริ่มสนใจและอยากจะนำไปใช้เป็นแบบอย่างบ้างแน่นอน
3. จุดจบของยุค “เก็บ Data มั่วซั่ว”
สำหรับคนทำธุรกิจ, นักการตลาด (Marketing), สาย Data, หรือสาย Ad Tech นี่คือ สัญญาณอันตราย ค่ะ!
-
ถ้าอนาคตผู้ใช้งานในไทยมีสิทธิเลือกแบบ EU บ้าง การยิงโฆษณาแบบ “หวังพึ่ง Algorithm ให้หาลูกค้าให้แบบเจาะจงเป๊ะ ๆ” จะเริ่ม ยากขึ้นมาก
-
ความแม่นยำ (Targeting) ของโฆษณาจะลดลง อาจส่งผลให้ ค่าโฆษณา (Cost) หรือผลตอบแทน (ROAS) เปลี่ยนไป
-
ดังนั้น นักการตลาดต้องปรับตัวด่วน! Content ที่ดี, Brand ที่น่าเชื่อถือ, และ Community ที่แข็งแรง จะสำคัญกว่าเดิมหลายเท่า เพราะเราอาจพึ่งพาข้อมูลส่วนตัวแบบละเอียดไม่ได้อีกต่อไปแล้วค่ะ
💡 ผู้ใช้ไทยต้องเริ่มคิดเรื่อง Privacy จริงจังแล้ว!
แม้ว่าตอนนี้เราจะยังไม่ได้รับสิทธินี้ แต่เราควรเริ่มจริงจังกับเรื่องนี้ได้แล้วค่ะ
-
อ่านก่อนกด: เวลาที่แอปไหนเด้งหน้าจอขอความยินยอม (Consent) ลองกดอ่านดูบ้างว่า “เรายอมแชร์อะไรไปบ้าง?” ไม่ใช่กด “ตกลง” รัว ๆ อย่างเดียว
-
เตรียมรับมือ: ถ้าอนาคตมีกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในไทยที่เข้มแข็งขึ้นตามแบบยุโรป เราอาจจะได้เห็นฟีเจอร์นี้ในไทยบ้างก็ได้นะ! ถึงตอนนั้นเราจะได้รู้ว่าเรามีสิทธิ์ที่จะเลือกค่ะ
สรุปสั้น ๆ ง่าย ๆ: Meta โดน EU บังคับให้ใจดีขึ้น! ตอนนี้ผู้ใช้ Facebook/IG ในยุโรปยังใช้ฟรีได้ แต่สามารถเลือก “แชร์ข้อมูลน้อยลง” เพื่อแลกกับการเห็นโฆษณาที่ “ไม่เจาะจง” เท่าเดิม ซึ่งดีลนี้จะเริ่มใช้จริงปี 2026 และเป็นสัญญาณชัดเจนว่า ยุคใหม่ของความเป็นส่วนตัว บนโลกดิจิทัลกำลังมาแรงทั่วโลกค่ะ เตรียมตัวรับมือกันไว้ให้ดีนะคะ!
🧐 FAQ คำถามที่พบบ่อย (ฉบับไม่เป็นทางการ)
Q1: ระบบใหม่ของ Meta ใน EU มันดีกว่า “ยอมให้ตาม หรือไม่ก็จ่าย” ยังไง?
A: ดีกว่าเยอะเลยค่ะ! แบบเดิมคือคุณถูกบังคับให้เลือกแค่ 2 ทาง คือ 1. ยอมให้เก็บข้อมูลเต็มที่ เพื่อใช้ฟรี หรือ 2. จ่ายเงินแพง ๆ เพื่อไม่โดนเก็บข้อมูล แต่ระบบใหม่ใน EU เนี่ยคือ คุณยังใช้ฟรีได้อยู่ แถมยังเลือก “แชร์ข้อมูลน้อยลง” เพื่อให้เห็นโฆษณาที่ไม่ตามติดชีวิตคุณทุกฝีก้าวได้ด้วยค่ะ เป็นทางเลือกที่แฟร์กว่ามาก
Q2: ถ้าเลือกแชร์ข้อมูลน้อยลงแล้ว Facebook/IG จะไม่มีโฆษณาเลยจริงดิ?
A: ไม่จริงค่ะ ยังมีโฆษณาอยู่ดี แต่จะเป็นโฆษณาที่ “ไม่ Personalize” หรือเจาะจงตัวคุณน้อยลง เช่น อาจเห็นโฆษณาเสื้อผ้าผู้หญิง เพราะคุณเป็นผู้หญิงในประเทศนั้น ๆ แต่ไม่ใช่โฆษณาชุดที่คุณเพิ่งเปิดดูในเว็บไซต์เมื่อ 5 นาทีก่อน! คือคุณได้ “ความเป็นส่วนตัวที่เพิ่มขึ้น” แต่ไม่ใช่ประสบการณ์แบบไม่มีโฆษณา 100% ค่ะ
Q3: แล้วผู้ใช้คนไทยอย่างเราต้องทำยังไง หรือได้สิทธิ์นี้ด้วยไหม?
A: ตอนนี้ยังไม่มีผลโดยตรงค่ะ Meta ประกาศใช้แค่ใน EU เท่านั้น แต่ในฐานะคนทำงานดิจิทัล หรือผู้ใช้งานทั่วไป เราควรติดตามเรื่องนี้ไว้ให้ดี เพราะสิ่งที่เกิดในยุโรปมักเป็น “พิมพ์เขียว” ด้าน Privacy ให้กับทั่วโลกเสมอ ถ้ากฎหมายข้อมูลส่วนบุคคลของไทยเข้มข้นขึ้นเมื่อไหร่ เราอาจได้เห็นทางเลือก “แชร์ข้อมูลน้อยลง” มาถึงบ้านเราก็ได้นะ!

