ถ้าคุณคือหนึ่งในคนที่เคยพูดว่า “ขออีกแค่วันเดียวในเกมนะ…” แล้วเงยหน้ามาอีกทีคือพระอาทิตย์ขึ้นของจริง ข่าวนี้คือของขวัญชิ้นใหญ่ที่คุณไม่ต้องไปลุ้นสุ่มกาชาที่ไหนเลยครับ เพราะตอนนี้ Stardew Valley: Nintendo Switch 2 Edition ปล่อยออกมาให้พวกเราได้เล่นกันแล้ว และความใจป้ำที่สุดของ ConcernedApe (Eric Barone) ก็คือ ใครที่มีตัวเกมเวอร์ชัน Nintendo Switch เดิมอยู่แล้ว คุณสามารถอัปเกรดเป็นเวอร์ชันใหม่ได้ “ฟรี” ผ่าน Upgrade Pack ใน Nintendo eShop ได้เลย ไม่ต้องซื้อซ้ำให้เสียดายเงิน เก็บงบไว้ซื้อเกมอื่นได้สบายๆ (อ้างอิงจาก Noisy Pixel)
แต่หลายคนอาจจะสงสัยว่า “แค่อัปเกรดเครื่องใหม่ มันจะต่างจากเดิมแค่ไหนเชียว?” บอกเลยว่ารอบนี้ไม่ใช่แค่ภาพคมหรือเฟรมเรตลื่นขึ้นแบบธรรมดา แต่มันมาพร้อมฟีเจอร์ที่ “เปลี่ยนประสบการณ์การทำฟาร์ม” ไปเลย โดยเฉพาะคนที่ชอบเล่นกับเพื่อนหรือคนในครอบครัว มาดูกันว่าของใหม่ที่เพิ่มเข้ามามีอะไรบ้าง
-
Local Split-screen Co-op ได้ถึง 4 คน (ในเครื่องเดียว!) นี่คือฟีเจอร์ที่ชาวหอหรือคนมีครอบครัวต้องกรี๊ด เพราะจากเดิมที่แบ่งหน้าจอเล่นได้แค่ 2 คน ตอนนี้ Nintendo Switch 2 Edition จัดเต็มให้เล่นพร้อมกันได้ถึง 4 คนในเครื่องเดียว (อ้างอิงจาก Kotaku) ลองนึกภาพกิจกรรมในบ้านที่คนหนึ่งรับหน้าที่ปลูกผัก อีกคนวิ่งไปขุดเหมืองหาแร่ อีกคนไปตกปลาที่ชายหาด ส่วนอีกคนรับหน้าที่แต่งบ้าน… แล้วสุดท้ายก็มานั่งเถียงกันว่า “ใครเอาไม้ไปใช้จนหมดฟาร์ม!” มันคือความวุ่นวายที่อบอุ่นและสนุกขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัวเลยครับ
-
ออนไลน์แก๊งใหญ่ได้ถึง 8 คน ถ้าทีมเพื่อนของคุณมีเยอะจนที่เดิมไม่พอรองรับ เวอร์ชันนี้ขยับเพดานการเล่นออนไลน์ (Online Co-op) ขึ้นไปถึง 8 คน (อ้างอิงจาก Kotaku) ซึ่งมันจะทำให้การทำฟาร์มกลายเป็นเหมือน “โปรเจกต์กลุ่ม” ระดับหมู่บ้าน คุณสามารถแบ่งหน้าที่กันได้แบบจริงจังมาก:
-
สายเกษตร: รับผิดชอบการปลูก หมักไวน์ ทำชีส ส่งออกสินค้า
-
สายลุยเหมือง: ตัวตึงด้านการหาแร่และสู้มอนสเตอร์
-
สายประมง: เก็บสะสมปลาหายากและสมบัติจากทะเล
-
สายอินทีเรีย: แต่งฟาร์มให้สวยแบบ Pinterest-core จนเพื่อนบ้านต้องอิจฉา พอคนเยอะ ฟาร์มก็จะโตไวขึ้นแบบก้าวกระโดด แต่ระวังเรื่องความวุ่นวายตอนเช้าที่ทุกคนแย่งกันออกจากบ้านไว้ให้ดีนะครับ
-
การควบคุมแบบเมาส์ (Mouse-style controls) ที่แม่นยำขึ้น หนึ่งในปัญหาที่คนเล่นคอนโซลมักจะบ่นกันก็คือ การจัดของในกระเป๋าหรือการวางเฟอร์นิเจอร์บางอย่างมันไม่ได้ “ดั่งใจ” เหมือนการใช้เมาส์บน PC แต่ในเวอร์ชัน Switch 2 นี้ เขาใส่ระบบ Mouse controls / Mouse-style controls เข้ามาช่วยให้เราสามารถลากไอเท็ม จัดเลย์เอาต์ฟาร์ม หรือเลือกเมนูต่างๆ ได้ลื่นไหลและแม่นยำขึ้นมาก (อ้างอิงจาก Kotaku) ใครที่เป็นสายจัดระเบียบหีบสมบัติ (Stock Management) หรือสายแต่งบ้านแบบละเอียดทุกพิกเซล ฟีเจอร์นี้จะช่วยลดเวลาและเพิ่มความฟินได้เยอะเลย
-
GameShare: ชวนเพื่อนมาจอยได้ง่ายขึ้น ฟีเจอร์ Game Share หรือ GameShare เป็นแนวคิดที่น่าสนใจมาก คือการที่คนซื้อเกมคนเดียวสามารถแชร์สิทธิ์ให้เพื่อนมาร่วมเล่นด้วยได้ในบางรูปแบบ (อ้างอิงจาก Kotaku) ซึ่งรายละเอียดจะขึ้นอยู่กับระบบของ Nintendo เป็นหลัก แต่มันช่วยให้การชวนเพื่อนใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยเล่น Stardew Valley ให้ลองเข้ามาสัมผัสโลกของเกมได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องบังคับให้เพื่อนกดซื้อทันทีตั้งแต่วันแรก
ราคาเท่าไหร่ถ้ายังไม่มีเกม? สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่เคยมีเกมนี้เลย ราคาบน Nintendo eShop โซน US จะอยู่ที่ประมาณ $14.99 เท่านั้น (อ้างอิงจาก Noisy Pixel) ซึ่งถือว่าคุ้มค่ามากกับคอนเทนต์ระดับร้อยชั่วโมง และสำหรับคนที่มีเวอร์ชันเดิมอยู่แล้ว ย้ำอีกครั้งว่ากดรับ Upgrade Pack ได้ฟรีเลยครับ
จุดที่ต้องระวัง: ปัญหาช่วงเปิดตัวและวิธีแก้ อย่างไรก็ตาม ช่วงแรกที่เปิดให้อัปเกรด มีรายงานว่าผู้เล่นบางคนเจออาการติดขัดในโหมด Co-op หรือออนไลน์บ้าง ซึ่งทางผู้พัฒนา ConcernedApe ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ออกมายอมรับและกำลังเร่งแก้ไขให้อยู่ (อ้างอิงจาก Kotaku) ทริคเบื้องต้นสำหรับคนที่หา Upgrade Pack ไม่เจอ หรือสิทธิ์การอัปเกรดไม่ขึ้น:
-
ลอง “ลบเกมแล้วติดตั้งใหม่”: เป็นวิธีคลาสสิกที่ช่วยให้ eShop รีเฟรชสิทธิ์การเป็นเจ้าของและดึงเวอร์ชันล่าสุดมาให้
-
อัปเดต System ของเครื่อง Switch 2 ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเสมอ
-
เช็กว่าใช้ Account เดียวกับที่เคยซื้อเกมเวอร์ชันเดิมหรือไม่
ทำไมการอัปเกรดครั้งนี้ถึงสำคัญ? ในยุคที่หลายเกมมักจะเก็บเงินเพิ่มเมื่อเปลี่ยนเครื่อง (Next-gen upgrade) แต่ Stardew Valley ยังคงยึดมั่นในความซื่อสัตย์ต่อแฟนคลับด้วยการให้อัปเกรดฟรี มันไม่ใช่แค่เรื่องของเงิน แต่มันคือการทำให้ Community ของคนเล่นยังคงเหนียวแน่น ไม่ต้องถูกแยกออกจากกันเพราะเรื่องเครื่องเล่นใหม่ นอกจากนี้ตัวเกมที่อยู่มายาวนานตั้งแต่ปี 2016 (อ้างอิงจาก Wikipedia) ยังพิสูจน์ให้เห็นว่ามันคือเกมระดับขึ้นหิ้งที่พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ในขณะที่เรากำลังรอโครงการใหม่ของเขาอย่าง Haunted Chocolatier (อ้างอิงจาก Wikipedia) การกลับมาทำฟาร์มที่อัปเกรดใหม่นี้ก็เหมือนกับการได้กลับไปเยี่ยมบ้านที่เพิ่งรีโนเวทใหม่ให้สวยและกว้างขวางกว่าเดิมนั่นเอง
สรุปแล้ว: ถ้าคุณมี Switch 2 อยู่ในมือ และมีเกม Stardew Valley อยู่แล้ว อัปเกรดเถอะครับ! ของฟรีและดีแบบนี้ไม่ได้มีมาบ่อยๆ เตรียมเรียกเพื่อนกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง แล้วไปสนุกกับฟาร์ม 8 คนกันได้เลย!
FAQ (3 หัวข้อ):
-
วิธีรับสิทธิ์อัปเกรดฟรีบน Nintendo Switch 2 ต้องทำอย่างไร? เพียงเข้าไปที่หน้า Nintendo eShop แล้วค้นหาชื่อเกม Stardew Valley หากคุณเคยซื้อเกมนี้ในเวอร์ชัน Switch เดิมด้วยบัญชีเดียวกัน ระบบจะปรากฏ Upgrade Pack ให้คุณกดรับได้ฟรีทันที (อ้างอิงจาก Noisy Pixel) หากยังไม่ขึ้น ให้ลองอัปเดตระบบเครื่อง หรือลบเกมเดิมออกแล้วเลือกติดตั้งใหม่เพื่อให้ระบบดึงข้อมูลล่าสุดครับ
-
ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดที่สุดใน Switch 2 Edition คืออะไร? นอกจากกราฟิกและประสิทธิภาพที่ดีขึ้นแล้ว ฟีเจอร์ที่จับต้องได้จริงคือการเล่น Local Split-screen ที่รองรับได้ถึง 4 คน (จากเดิม 2 คน), การเล่นออนไลน์ที่ขยายขีดจำกัดเป็น 8 คน, การรองรับ Mouse-style controls เพื่อการควบคุมที่แม่นยำเหมือน PC และระบบ GameShare ที่ช่วยให้การเล่นร่วมกับเพื่อนสะดวกขึ้นมาก (อ้างอิงจาก Kotaku)
-
ถ้าเจอปัญหาเล่นออนไลน์ไม่ได้ หรือระบบ Co-op มีปัญหา ควรแก้ยังไง? เบื้องต้นแนะนำให้ตรวจสอบว่าทั้งตัวเครื่องและตัวเกมได้รับการอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดแล้วทั้งคู่ หากยังมีปัญหา หลายคนใช้วิธีลบเกมแล้วติดตั้งใหม่เพื่อแก้บั๊กเรื่องสิทธิ์การเข้าถึง นอกจากนี้ทาง ConcernedApe กำลังเร่งปล่อยแพตช์แก้ไขออกมา ดังนั้นการติดตามข่าวสารและอัปเดตเกมสม่ำเสมอคือวิธีที่ดีที่สุดครับ (อ้างอิงจาก Kotaku)


