Xpeng ได้เข้าซื้อกิจการของ Didi เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

Must Read

สวัสดีคอยานยนต์ไฟฟ้าทุกคน ครั้งนี้เรามีข่าวใหญ่สะเทือนวงการจะมาแจ้งให้ทราบว่า ตอนนี้ Xpeng ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน ประกาศซื้อสินทรัพย์ส่วนรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะจาก Didi ผู้ให้บริการแอปเรียกรถแท็กซี่รายใหญ่ของจีนแล้ว ซึ่งรายละเอียดเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร ใครอยากรู้ก็ตามมาอ่านกันเลย

สรุปข้อมูลและรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้ดังนี้

  • จากข่าววงในที่สืบมาได้ พบว่ามูลค่าของดีลอยู่ที่ 744 ล้านดอลลาร์ (26,173,920,000 บาท) ในขณะที่สองบริษัทจะมีการร่วมมือในการสร้างแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าใหม่อีกด้วย

  • ซึ่ง XPeng ร่วมมือ Didi จะใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ในการเปิดตัวแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่มีชื่อว่า “Mona” ราคาเริ่มต้นประมาณ 20,500 ดอลลาร์สหรัฐ (721,190 บาท) มีกำหนดการเปิดตัวในปี 2024 นี้

  • โดยคุณเฮ เสียวเหลียว ประธานเจ้าหน้าที่ของ XPeng เปิดเผยความร่วมมือใหม่โดยกล่าวว่า “ผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้าระดับ A ภายใต้แบรนด์ใหม่ของ XPENG จะไม่เพียงเพิ่มขนาดของเราเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าระดับ A และนำเทคโนโลยีของเรามาสู่กลุ่มลูกค้าที่กว้างขวางมากขึ้น”

  • และในระหว่างนี้ Didi จะให้การสนับสนุนระบบนวัตกรรมในด้านความเคลื่อนไหวเพื่อช่วยเปิดทางให้โครงการได้ก้าวไปข้างหน้า และสร้างโมเดลรถยนต์ไฟฟ้า Smart อีกด้วย ทั้งสองบริษัทจะร่วมมือในการตลาด การเงิน การประกัน การชาร์จ รถแท็กซี่ไร้คนขับ (Robotaxi) และการขยายตัวไปยังตลาดระดับนานาชาติ

  • ถือได้ว่าความร่วมมือกันในครั้งนี้ระหว่าง Xpeng กับ Didi จะต้องสร้างความสั่นสะเทือนกับวงการรถยนต์ไฟฟ้าอย่างแน่นอน เพราะมันหมายความว่ารถยนต์ไฟฟ้า Xpeng ที่กำลังจะถูกผลิตขึ้นในอนาคตจะมีเทคโนโลยีอัจฉริยะเป็นของตัวเอง ในราคาที่ถูกลง สามารถแข่งขันได้

และนี่ก็คือข่าวความเคลื่อนไหวสำคัญในวงการยานยนต์ไฟฟ้าจาก Xpeng ที่เราอยากแจ้งให้เพื่อนๆ ได้ทราบในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับคอยานยนต์และนักลงทุนทุกคน และหากมีข่าวความคืบหน้าประการใดเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก เราจะรีบมาอัพเดทให้ทุกท่านได้ทราบข้อมูลก่อนใครโดยทันที

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก: ผลกระทบจาก Fed, ราคาน้ำมัน

ตลาดหุ้นทั่วโลกประสบกับการปรับตัวลดลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ภายใต้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันพบกับความผันผวน โดยมีการเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อน และลดลงในวันที่ 8 เมษายน หลังการเจรจาหยุดยิงในตะวันออกกลาง ทองคำก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน เหตุการณ์แผ่นดินไหวในไต้หวันส่งผลกระทบจำกัดต่ออุตสาหกรรมผลิตชิป และตลาดหุ้นจีนได้รับประโยชน์จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด เงินเฟ้อในยุโรปก็แสดงถึงการลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่การลดดอกเบี้ยจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในเดือนมิถุนายน ด้านผู้จัดการกองทุนต่างคาดการณ์ว่าตลาดโดยรวมจะแกว่งตัวตามข้อมูลเงินเฟ้อและผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐฯ ภาพรวมตลาดที่ผ่านมาแกว่งตัวในแนวข้าง...
- Advertisement -

More Articles Like This