ถ้าบ้านไหนเพิ่งถอยเครื่อง PS5 มาใหม่ หรือกำลังจะยกเครื่องให้ลูกเริ่มเล่นแบบจริงจัง บอกเลยครับว่า “การตั้งค่า” ตั้งแต่วันแรกสำคัญมาก! เพราะปัญหาคลาสสิกที่พ่อแม่มักเจอคือ ลูกเผลอกดซื้อไอเทมในเกมรัวๆ จนกระเป๋าฉีก, เล่นเพลินจนดึกดื่นเสียการเรียน หรือแย่กว่านั้นคือไปเจอคนแปลกหน้าทักแชทมาด้วยคำพูดที่ไม่เหมาะสม
หัวใจสำคัญที่ผมอยากแนะนำคือ อย่าให้เด็กใช้แอคเคานต์ผู้ใหญ่ร่วมกับเราครับ ให้สร้าง “บัญชีเด็ก (Child account)” แยกไปเลย แล้วเราค่อยคุมผ่านระบบ “Family Management / Parental Controls” ของ PS5 เอา (เมนูจะอยู่ที่ Settings > Family and Parental Controls > Family Management) วันนี้ผมจะพาไปดูไกด์แบบจับมือทำ พร้อมทริคอุดรอยรั่วที่หลายคนมองข้ามครับ
1) เตรียมตัวก่อนเริ่ม (จะได้ไม่สะดุดกลางทาง)
ก่อนจะเปิดเครื่องตั้งค่า เตรียมของพวกนี้ให้พร้อมก่อนครับ:
-
อีเมลของผู้ปกครอง 1 อัน: สำหรับเป็น Family Manager (คนคุมกฎ)
-
อีเมลของเด็ก 1 อัน: ถ้ายังไม่มี แนะนำให้สมัครใหม่ไว้สำหรับผูกกับ PlayStation โดยเฉพาะ
-
วันเกิดของเด็ก: อันนี้สำคัญมาก “ต้องใส่ตามจริง” เพราะระบบจะใช้คำนวณระดับอายุ (Age Rating) เพื่อกรองเนื้อหาให้อัตโนมัติ
-
ตกลงกติกากันก่อน: เช่น วันเรียนเล่นได้ 1 ชั่วโมง วันหยุด 3 ชั่วโมง หรือต้องทำการบ้านเสร็จก่อนถึงจะขอเวลาเพิ่มได้
2) สร้าง “Family” และเพิ่มบัญชีเด็กให้ถูกวิธี
หลักการง่ายๆ คือ ผู้ปกครอง = Manager, เด็ก = Member 1. ให้คุณล็อกอินบัญชีตัวเองบนเครื่อง PS5 ในฐานะ Family manager ก่อน 2. ไปที่เมนู Family Management แล้วเลือก Create User / Add child 3. ทำตามขั้นตอนบนหน้าจอไปเรื่อยๆ ระบบจะให้ใส่ข้อมูลเด็กและตั้งค่าการควบคุมเบื้องต้นไปพร้อมกันเลย
ทำไมต้องแยกบัญชี? เพราะเรตอายุในเกมไม่ได้บอกแค่ว่าเกมนั้นยากหรือง่าย แต่มันบอกถึง “ความเหมาะสมของเนื้อหา” (ความรุนแรง, ภาษา, เพศ) การแยกบัญชีจะช่วยให้ Parental controls ทำงานได้แม่นยำที่สุดครับ
3) ตั้ง Parental Controls จุดสำคัญที่ต้องเช็ก
ในระบบของ PlayStation เราสามารถคุมได้ละเอียดมาก ดังนี้ครับ:
-
3.1 จำกัดเกมตามอายุ (Age level): ตั้งตามวัยของลูกได้เลย แต่ถ้าเกมไหนเราดูแล้วว่าลูกเล่นได้แม้เรตจะเกิน ระบบจะมีฟีเจอร์ให้เด็กกด “ขออนุญาต” ส่งมาที่มือถือเราเพื่อให้เรากดอนุมัติเป็นรายเกมได้ สะดวกสุดๆ
-
3.2 คุมแชทและข้อความ (Online Communication): สำหรับเด็กเล็ก แนะนำให้ “ปิด” หรือ “จำกัด” ไว้ก่อนครับ เพื่อป้องกันการไปคุยกับคนแปลกหน้า หรือการเห็นคอนเทนต์ที่คนอื่นสร้างขึ้น (UGC) ที่อาจจะไม่เหมาะสม
-
3.3 ตั้งเวลาเล่น (Playtime): กำหนดได้เลยว่าเล่นได้กี่โมงถึงกี่โมง หรือเล่นได้วันละกี่ชั่วโมง พอใกล้หมดเวลาจะมีแจ้งเตือนบนจอเด็ก และถ้าลูกอยากเล่นต่อ เขาสามารถกด “Request more time” มาหาเราได้ครับ
-
3.4 กันช้อปหลุด (Monthly Spending Limit): อันนี้คือ “กับดัก” อันดับหนึ่ง! โดยปกติเงินที่เด็กใช้จะตัดจาก Wallet ของเรา ดังนั้นให้ตั้ง วงเงินรายเดือนเป็น 0 ไว้ก่อนครับ ถ้าจะซื้ออะไรค่อยมาคุยกันเป็นครั้งๆ ไป หรือถ้าลูกเริ่มโตแล้วอาจจะให้โควตาเดือนละนิดหน่อยเพื่อสอนเรื่องการบริหารเงินก็ได้
4) ปิด “ทางหนีทีไล่” (เทคนิคที่คนส่วนใหญ่พลาด!)
เด็กสมัยนี้ฉลาดครับ ถ้าเราตั้งค่าแค่บัญชีเขา เขาอาจจะแอบไปสร้างบัญชีใหม่หรือเข้าบัญชีเราเพื่อปลดล็อกเองได้ เราต้องบล็อกจุดนี้ด้วย:
-
4.1 เปลี่ยนรหัส Console Restrictions: ไปที่ Settings > Family and Parental Controls > PS5 Console Restrictions รหัสเริ่มต้นมักเป็น 0000 ให้เปลี่ยนเป็นเลขอื่นทันที (และจดไว้ให้ดีนะครับ ถ้าลืมต้องล้างเครื่องเลยนะ!)
-
4.2 ปิดการสร้าง User ใหม่: เลือกที่ User Creation and Guest Login แล้วตั้งเป็น “Not Allowed” เพื่อกันเด็กสร้างบัญชีผีขึ้นมาเล่นเพื่อเลี่ยงการควบคุม
-
4.3 ล็อกบัญชีพ่อแม่ (Login Passcode): ตั้งรหัสผ่านตอนเข้าใช้เครื่องในบัญชีผู้ใหญ่ เพื่อไม่ให้ลูกแอบสลับบัญชีมาเล่นแทนเราครับ
5) คุมผ่านมือถือด้วย PlayStation Family App
ถ้าไม่อยากเดินไปที่หน้าทีวีบ่อยๆ แนะนำให้โหลดแอป PlayStation App บนมือถือไว้ครับ คุณสามารถดูรายงานได้ว่าวันนี้ลูกเล่นไปกี่ชั่วโมง กดอนุมัติเวลาเพิ่ม หรือปรับวงเงินซื้อของได้จากที่ไหนก็ได้บนโลกนี้เลย
6) คุยกับลูกสั้นๆ แต่ได้ผลยาวๆ
การตั้งค่าทางเทคนิคเป็นแค่ส่วนหนึ่ง แต่ความเข้าใจสำคัญกว่าครับ ลองคุยกับเขาดู:
-
ห้ามบอกข้อมูลส่วนตัว: ชื่อจริง, โรงเรียน, ที่อยู่ ห้ามพิมพ์บอกใครในเกมเด็ดขาด
-
เจออะไรแปลกๆ ให้บอก: ถ้าโดนใครด่า หรือเจอคนทำตัวแปลกๆ ให้มาบอกพ่อแม่ทันที เราจะได้ช่วยบล็อกและรายงาน (Report) ได้ถูก
-
จะซื้ออะไรต้องขอก่อน: ไม่ใช่ห้ามซื้อ แต่ต้องคุยกันก่อนว่าเป็นเกมอะไร คุ้มไหม
FAQ: คำถามที่พบบ่อย
Q: ให้ลูกใช้บัญชีเดียวกับพ่อแม่ไปเลยได้ไหม? A: ไม่แนะนำอย่างยิ่งครับ เพราะนอกจากจะคุมเวลาและเนื้อหาไม่ได้แล้ว ลูกอาจจะเผลอไปลบเซฟเกมของคุณ หรือไปกดซื้อของราคาแพงโดยที่เราไม่รู้ตัวได้ การแยกบัญชีปลอดภัยที่สุด
Q: ถ้าตั้งวงเงินเป็น 0 แล้ว ลูกจะยังโหลดเกมฟรีได้ไหม? A: ได้ครับ เกมฟรี (Free-to-play) หรือ Demo สามารถโหลดได้ปกติ แต่ถ้าเป็นเกมที่ต้องเสียเงินหรือการซื้อ In-game items ระบบจะบล็อกทันทีตามวงเงินที่เราตั้งไว้
Q: ตั้งค่าทุกอย่างแล้ว ทำไมลูกยังแอบเล่นได้อยู่? A: ส่วนใหญ่เป็นเพราะ “ช่องโหว่” ครับ ลองเช็กดูว่าได้ปิดการสร้างบัญชี Guest หรือยัง? และได้ตั้งรหัสล็อกอินบัญชีผู้ใหญ่หรือยัง? ถ้าทำครบ 2 จุดนี้ ลูกจะหนีไปเล่นบัญชีอื่นไม่ได้แน่นอน
สรุปเช็กลิสต์ (ทำตามนี้ปลอดภัยชัวร์):
-
[ ] สร้าง Family + บัญชีเด็กแยก
-
[ ] จำกัดเรตอายุเกม/แอป
-
[ ] ปิดการสื่อสารออนไลน์ (สำหรับเด็กเล็ก)
-
[ ] ตั้งเวลาเล่นรายวัน
-
[ ] ตั้งวงเงินซื้อของเป็น 0
-
[ ] เปลี่ยนรหัส Console Restrictions (ห้ามใช้ 0000)
-
[ ] ปิดการสร้าง User ใหม่และ Guest
-
[ ] ตั้งรหัสล็อกอินบัญชีผู้ใหญ่

