Tuesday, September 2, 2025
30.2 C
Bangkok

ผู้พิพากษาสหรัฐฯ อาจเลือกใช้มาตรการเบาลงในคดีผูกขาดของ Google

วงการเทคโนโลยีสหรัฐฯ กำลังลุ้นระทึก เมื่อผู้พิพากษาในคดีผูกขาดของ Google กำลังพิจารณาทางเลือกในการลงโทษที่ “เบาลง” แทนการสั่งแยกกิจการหรือสั่งเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจแบบรุนแรง โดยคดีนี้เป็นคดีประวัติศาสตร์ ซึ่งกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (DOJ) ฟ้อง Google ว่าใช้อำนาจเหนือตลาดเสิร์ชเอนจินแบบไม่เป็นธรรม เพื่อกีดกันคู่แข่งและผูกขาดการเข้าถึงข้อมูล

ฝ่าย DOJ ให้เหตุผลว่า Google จ่ายเงินหลายพันล้านดอลลาร์ให้กับบริษัทต่างๆ เช่น Apple และผู้ผลิตสมาร์ทโฟน เพื่อให้ Google เป็นเสิร์ชเอนจินเริ่มต้นในอุปกรณ์ของพวกเขา ซึ่งทำให้คู่แข่งไม่สามารถแข่งขันได้อย่างยุติธรรม

แม้ Google จะโต้แย้งว่าผู้ใช้เลือกใช้ Google เพราะ “มันดีกว่า” ไม่ใช่เพราะถูกบังคับ แต่การพิจารณาคดีตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาเปิดเผยข้อมูลภายในจำนวนมากเกี่ยวกับดีลที่ทำกับพันธมิตร และกลยุทธ์ที่ใช้เพื่อครองตลาดเสิร์ช

ล่าสุด ผู้พิพากษา Amit Mehta ที่ดูแลคดีนี้ กำลังพิจารณาว่าหาก Google แพ้คดี ควรมีการลงโทษแบบใด โดยหนึ่งในแนวคิดที่ถูกพูดถึง คือการ “ปรับพฤติกรรม” แทนการรื้อระบบทั้งหมด เช่น การสั่งให้ Google ยุติข้อตกลงที่มีลักษณะผูกขาด หรือกำหนดเงื่อนไขที่ต้องเปิดโอกาสให้เสิร์ชเอนจินอื่นเข้าถึงระบบได้มากขึ้น

สิ่งที่ทำให้คดีนี้จับตามองเป็นพิเศษ คือความเป็น “กรณีทดสอบ” สำหรับการควบคุมบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี หากศาลตัดสินให้ Google ผิดและมีบทลงโทษที่ชัดเจน นี่อาจกลายเป็นต้นแบบของการดำเนินคดีต่อ Amazon, Apple หรือ Meta ในอนาคต

ไม่เพียงแค่เรื่องเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวพันถึงแนวทางเศรษฐกิจดิจิทัลในระดับโลก เพราะ Google ไม่ได้มีอิทธิพลแค่ในสหรัฐฯ แต่ยังรวมถึงทั่วโลก ซึ่งรวมถึงประเทศไทย ที่ผู้ใช้กว่า 90% เลือกใช้ Google เป็นเครื่องมือค้นหาหลัก

คาดว่าภายในปี 2025 เราจะได้เห็นบทสรุปของคดีนี้ ซึ่งจะสะท้อนว่าโลกเทคโนโลยีสามารถถูกควบคุมได้หรือไม่ และเสรีภาพของตลาดดิจิทัลจะมีทิศทางไปในแบบใดกันแน่

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

This field is required.

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

Hot this 48 hr.

หัวเว่ยรับชิพยังช้ากว่าอเมริกา 1 เจน แต่มีไม้เด็ดสู้ด้วยคณิตฯ-คลัสเตอร์!

คำให้สัมภาษณ์ของ Ren Zhengfei ผู้ก่อตั้ง Huawei ซึ่งยอมรับตรงๆ ว่าชิพ AI/เซิร์ฟเวอร์ของบริษัท “ยังตามหลังสหรัฐอยู่หนึ่งเจเนอเรชัน”...

เมื่อ OpenAI มอง “ความสัมพันธ์มนุษย์-AI” สูงส่งเกินจริง แต่ผู้คนอินกับแชทบอทไปไกลแล้ว

ความสัมพันธ์ระหว่างคนกับ AI ไม่ได้เป็นเรื่องอนาคตอีกต่อไป—มันเกิดขึ้นตรงหน้า OpenAI เพิ่งโพสต์บล็อกโดย Joanne Jang ชี้แจงว่าบริษัทกำลังออกแบบโมเดลให้ “ดูอบอุ่นแต่ไม่แกล้งทำเป็นมีจิตวิญญาณ”...

ป้อมปราการมหากำแพง: ทำไม iPad ถึงยังไม่ “โต” เป็น Mac เสียที

ถ้าเพื่อน ๆ ตามข่าว WWDC 2025 คงได้ยินประโยคฮิตที่ Engadget พูดไว้ว่า “กำแพงล้อมรั้วของ...

“ทรัมป์” บ่น “จีนไม่ง่าย” เจรจาการค้ารอบใหม่ที่ลอนดอน ลุ้นคลายสงครามภาษีและแร่หายาก

การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ลอนดอนเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2568 (ตามเวลาไทย) จบวันแรกไปแบบไม่มีประกาศชัยชนะ แต่ก็ยังไม่ถึงทางตัน —...

โทรออกจากแมคได้จริง — Phone App บน macOS 26 ก้าวเล็ก ๆ ที่พา Mac เข้าใกล้ “โน้ตบุ๊กใส่ซิม”

ถ้าใครได้ดูงาน WWDC 2025 คงสะดุดตาว่า Apple ไม่ได้เปิดตัวฮาร์ดแวร์ใหม่派อะไรโฉบเฉี่ยว แต่กลับสร้างเสียงฮือฮาด้วย “Liquid Glass”...

Topics

OpenAI เปิดตัวโมเดล o3-pro ใน ChatGPT: แรงขึ้น ฉลาดขึ้น และใกล้มนุษย์มากกว่าเดิม!

OpenAI ประกาศเปิดตัวโมเดลใหม่ล่าสุดในตระกูล GPT อย่าง “o3-pro” สำหรับ ChatGPT โดยเริ่มใช้งานได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ใครที่เป็นแฟนคลับสาย...

ฟีเจอร์ “Scheduled Actions” ใน Gemini: จัดคิวงานให้เอไอทำแทนแบบไม่ต้องคอยสั่งเอง

Gemini (ผู้ช่วย AI ของ Google) เพิ่งปล่อยฟีเจอร์ใหม่ชื่อ Scheduled Actions ให้เรา...

เมื่อ OpenAI มอง “ความสัมพันธ์มนุษย์-AI” สูงส่งเกินจริง แต่ผู้คนอินกับแชทบอทไปไกลแล้ว

ความสัมพันธ์ระหว่างคนกับ AI ไม่ได้เป็นเรื่องอนาคตอีกต่อไป—มันเกิดขึ้นตรงหน้า OpenAI เพิ่งโพสต์บล็อกโดย Joanne Jang ชี้แจงว่าบริษัทกำลังออกแบบโมเดลให้ “ดูอบอุ่นแต่ไม่แกล้งทำเป็นมีจิตวิญญาณ”...

Liquid Glass ดีไซน์ใหม่สุดล้ำของ Apple – การพลิกโฉมหน้าตาอุปกรณ์ครั้งใหญ่ในรอบหลายปี

ในงาน WWDC 2025 Apple เปิดตัว “Liquid Glass” ภาษาดีไซน์ใหม่ที่ลากเส้นบาง ๆ...

Related Articles

Popular Categories

spot_img