จุฬาฯ อยู่ระหว่างวิจัยเครื่องตรวจโควิด-19 จากกลิ่นเหงื่อ

Must Read

วันนี้เรามีข่าวดีจะแจ้งให้ชาวไทยทุกคนได้ทราบว่า เร็วๆ นี้ ม. จุฬาฯ สามารถคิดค้นเครื่องตรวจคัดกรองโควิดจากกลิ่นเหงื่อ รู้ผลภายใน 30 วินาที ซึ่งรายละเอียดจะเป็นอย่างไร ใครอยากรู้ต้องตามมาดูกัน

สรุปข้อมูลและรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้เป็นดังนี้

  • เร็วๆ นี้คณะสัตวแพทยศาสตร์และคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ใช้สุนัขดมกลิ่นตรวจเหงื่อเพื่อคัดกรองผู้ติดเชื้อโควิด -19 ที่ไม่แสดงอาการในชุมชน
  • นั่นจึงเป็นที่มาทำให้ล่าสุดคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ได้ร่วมกับบริษัทเชฟรอนประเทศไทย ต่อยอดการตรวจคัดกรองผู้ติดเชื้อด้วย “เครื่องมือตรวจกลิ่นเหงื่อผู้ติดเชื้อโควิดแบบพกพา” (Portable sweat test for COVID detection) เพื่อช่วยเสริมทัพสุนัขดมกลิ่น ในการตรวจคัดกรองผู้ติดเชื้อให้เร็วมากขึ้น
  • โดยเครื่องมือตรวจกลิ่นเหงื่อผู้ติดเชื้อโควิดนี้พัฒนามากจากเครื่องตรวจวัดทางเคมีวิเคราะห์แบบพกพาที่หาซื้อได้ตามท้องตลาด โดยได้เพิ่มวัสดุที่เป็นตัวกรองจำเพาะเข้าไปที่ตัวเครื่องมือเพื่อให้สามารถเลือกตรวจวัดค่าสารสำคัญที่บ่งบอกถึงการมีเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้
  • วิธีการใช้งานก็แสนง่าย คือ ให้นำแท่งสำลีไปหนีบไว้ที่รักแร้ของผู้รับการตรวจ ทิ้งแท่งสำลีไว้ประมาณ 15 นาที จากนั้นนำมาใส่ขวดแก้ว และฆ่าเชื้อขวดแก้วด้วยรังสี UV และนำมาตรวจวัดด้วยเครื่องมือดังกล่าว
  • โดยปัจจุบันเครื่องมือตรวจกลิ่นเหงื่อผู้ติดเชื้อโควิดแบบพกพานี้ยังอยู่ระหว่างการวิจัยและพัฒนาเพิ่ม แต่ก็ได้มีการทดลองใช้จริงแล้ว โดยทางจุฬาฯ ได้ร่วมมือกับกรมควบคุมโรคและหน่วยงานภาครัฐเข้าไปตรวจคัดกรองผู้ติดเชื้อในแหล่งชุมชนต่างๆ เป็นตัวช่วยหนุนการตรวจคัดกรองเชิงรุก ทำให้ทำงานได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น

และนี่ก็คืออีกหนึ่งข่าวความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจเกี่ยวกับโควิด-19 ในไทยที่เราอยากแจ้งให้เพื่อนๆ ได้ทราบในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคน เพราะหากเครื่องมือนี้ประสบความสำเร็จในการใช้งาน ก็จะมีประโยชน์ช่วยในการป้องกันการระบาดในเชิงรุกได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ที่มา

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

เผยรายงานคนไทยเผชิญ SMS หลอกลวงมากสุดในเอเชียปี 2566 จาก Whoscall

ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลเป็นสิ่งที่ไหลเวียนได้รวดเร็วที่สุด ประเด็นเรื่องความปลอดภัยสารสนเทศก็เป็นหัวข้อที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงอย่างต่อเนื่อง Whoscall, แอปพลิเคชั่นชั้นนำที่ช่วยในการระบุตัวตนของสายเรียกเข้าไม่ที่รู้จักและการป้องกันข้อความสแปม, ได้เปิดเผยรายงานประจำปี 2566 ที่แสดงให้เห็นว่าคนไทยตกเป็นเหยื่อของ SMS หลอกลวงมากกว่าใครในเอเชียด้วยจำนวนถึง 58 ล้านข้อความ แม้ว่าในภูมิภาคเอเชียโดยรวมจะพบว่าการหลอกลวงมีแนวโน้มลดลงจากการทำงานร่วมกันของภาครัฐและภาคเอกชน แต่ในประเทศไทยกลับพบว่ามีการเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ การหลอกลวงเหล่านี้รวมถึงการส่งข้อความที่มีลิงก์ปลอม, การหลอกลวงเกี่ยวกับการลงทุนและเว็บพนัน และการใช้ชื่อของหน่วยงานรัฐในการหลอกลวง การรายงานจาก Whoscall ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการรับข้อมูล พวกเขายังได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบ URL...
- Advertisement -

More Articles Like This