ข่าวดี BYD อาจเปิดตัวรถยนต์ MPV ตระกูล Dynasty ปลายปี 2024

Must Read

สวัสดีคอยานยนต์ทุกคน โดยเฉพาะใครที่ชื่นชอบรถยนต์จากจีนบอกเลยว่าต้องไม่พลาดบทความนี้ เพราะครั้งนี้เรามีข่าวดีจะแจ้งให้ทราบว่า ค่าย BYD อาจเปิดตัวรถ MPV ในตระกูล Dynasty ช่วงครึ่งหลังของปี 2024 ซึ่งรายละเอียดเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร ใครสนใจอยากได้ก็ตามมาดูรายละเอียดที่ด้านล่างนี้กันเลย

สรุปข้อมูลและรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้เป็นดังนี้

  • BYD ระบุว่า MPV รุ่นแรกของไลน์ Dynasty ของทางบริษัทจะถูกเปิดตัวระหว่างไตรมาสที่สามและไตรมาสสุดท้ายของปีหน้า อาจเปิดตัวภายใต้ชื่อว่า BYD Ming

  • คาดว่าขนาดของ MPV ดังกล่าวจะอยู่ระหว่าง BYD Song Max และ Denza D9 คือตัวรถจะยาวประมาณ 5000 มม. และมีระยะฐานล้อกว่า 3000 มม. อีกทั้งคาดว่าจะมีให้เลือกทั้งแบบปลั๊กอินไฮบริดและไฟฟ้าล้วน ซึ่งทั้งสองรุ่นจะใช้แบตชนิด Blade Battery และมีระยะการวิ่งระหว่าง 600 ถึง 1,000 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับรุ่นที่เลือก

  • ทั้งนี้ระบบ ADAS ของ MPV คันนี้จะอยู่ที่ระดับ L2 โดยมีระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB) ระบบ adaptive cruise control และระบบช่วยการขับในเลน (LKAS) ด้วย

  • ราคาเริ่มต้นคาดว่าจะอยู่ประมาณ 200,000 หยวน (ราว1ล้านบาท) ในขณะที่บางเจ้าคาดการณ์ว่าราคาจะอยู่ที่ 250,000-350,000 หยวน (ราว 1.2 – 1.7 ล้านบาท)

  • ก่อนหน้านี้มีภาพรถ MPV ที่น่าจะเป็นของ BYD ถูกถ่ายไว้ได้ จากภาพตัวรถจะมีความคล้ายคลึงกับ Denza D9 ที่ด้านนอก ทำให้นักวิเคราะห์บางรายเชื่อว่าทาง BYD มีแผนจะผลิตรถเวอร์ชันราคาถูกของ Denza D9 ซึ่งรถยนต์สองคันมีสัดส่วนที่คล้ายกัน เช่น เสา A ที่เอียง ประตูหลังเลื่อน อย่างไรก็ตามจะมีความแตกต่างบางอย่าง เช่น ดีไซน์ไฟท้าย สปอยเลอร์หลัง และเส้นหลังคา

และนี่ก็คือข่าวความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจในแวดวงยานยนต์ที่เราอยากแจ้งให้เพื่อนๆ ได้ทราบในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นที่ชื่นชอบถูกใจคอยานยนต์ทุกคน และหากมีความคืบหน้าประการใดเกี่ยวกับรถยนต์รุ่นนี้อีก เราจะรีบมาแจ้งให้เพื่อนๆ ได้ทราบก่อนใครทันที

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก: ผลกระทบจาก Fed, ราคาน้ำมัน

ตลาดหุ้นทั่วโลกประสบกับการปรับตัวลดลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ภายใต้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันพบกับความผันผวน โดยมีการเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อน และลดลงในวันที่ 8 เมษายน หลังการเจรจาหยุดยิงในตะวันออกกลาง ทองคำก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน เหตุการณ์แผ่นดินไหวในไต้หวันส่งผลกระทบจำกัดต่ออุตสาหกรรมผลิตชิป และตลาดหุ้นจีนได้รับประโยชน์จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด เงินเฟ้อในยุโรปก็แสดงถึงการลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่การลดดอกเบี้ยจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในเดือนมิถุนายน ด้านผู้จัดการกองทุนต่างคาดการณ์ว่าตลาดโดยรวมจะแกว่งตัวตามข้อมูลเงินเฟ้อและผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐฯ ภาพรวมตลาดที่ผ่านมาแกว่งตัวในแนวข้าง...
- Advertisement -

More Articles Like This