จีดับเบิลยูเอ็ม ทำลายสถิติใหม่ ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจีนครั้งแรกที่มีการผลิตจำนวนมากในต่างประเทศ

Must Read

@Advertorial
@Advertorial
ลงโฆษณาสื่อประชาสัมพันธ์ในรูปแบบของบทความประกอบรุปภาพหรือวิดีโอสื่อต่างๆ

ประสิทธิภาพของ จีดับเบิลยูเอ็ม (GWM) ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า: ก้าวสำคัญในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยและโลก

บริษัท จีดับเบิลยูเอ็ม (Great Wall Motor), ผู้นำในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า, ได้เปิดตัวรุ่นจีดับเบิลยูเอ็ม โอรา 03 (GWM Ora 03) หรือที่รู้จักกันในชื่อจีดับเบิลยูเอ็ม โอรา กู๊ด แคท (GWM Ora Good Cat) ที่โรงงานในจังหวัดระยอง ประเทศไทย. นี่คือครั้งแรกที่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของจีนสามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจำนวนมากได้สำเร็จในต่างประเทศ, สะท้อนถึงความก้าวหน้าที่สำคัญของ GWM ทั้งใน

ฐานการผลิตและการขยายตลาดระดับโลก.

GWM ได้ตั้งเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำด้านพลังงานใหม่, พร้อมทั้งรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด (HEV), รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดแบบปลั๊กอิน (PHEV) และรถยนต์ไฟฟ้าแบบใช้แบตเตอรี่ (BEV). การผลิตในต่างประเทศของ GWM ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ระดับสากล แต่ยังเป็นหลักฐานของกลยุทธ์ที่ก้าวไกลของบริษัท.

ในส่วนของเอส โวลต์ (S-VOLT), ซึ่งเป็นหนึ่งในเสาหลักของจีดับเบิลยูเอ็ม โฮลดิงส์ กรุ๊ป (GWM Holdings Group), มีบทบาทสำคัญในการจัดหาแบตเตอรี่ให้กับรุ่นจีดับเบิลยูเอ็ม โอรา 03 ที่ผลิตในไทย. แบตเตอรี่จากเอส โวลต์ไม่เพียงแต่ใช้ในรถยนต์ของ GWM เท่านั้น แต่ยังถูกจัดหาให้กับแบรนด์รถยนต์ชั้นนำอื่นๆ ทั่วโลก.

GWM ประกาศเข้าสู่ตลาดไทยตั้ง

แต่เดือนพฤศจิกายน 2563, โดยได้เข้าซื้อโรงงานในจังหวัดระยอง ทำให้เป็นแบรนด์ยานยนต์จีนแบรนด์แรกที่มีฐานการผลิตในประเทศไทย. การเปิดตัว GWM อย่างเป็นทางการในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564 ได้เน้นย้ำการเติบโตของแบรนด์ในตลาดไทย พร้อมกับนำเสนอแนวทางการจำหน่ายที่ไม่เหมือนใครผ่านระบบ “พันธมิตร” และ “ราคาคงที่”.

การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดรุ่นแรกที่โรงงานจังหวัดระยองในเดือนพฤษภาคม 2564 ได้ยกระดับ GWM ให้เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ชั้นนำของประเทศไทย. การเปิดตัวนี้ไม่เพียงแต่เป็นก้าวสำคัญในอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณถึงการขยายตัวและความก้าวหน้าของ GWM ในตลาดโลก.

ด้วยการเปิดโรงงานในไทย, GWM ไม่เพียงแต่แสดงถึงความมุ่งมั่นในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและพลังงานใหม่, แต่ยังสะท้อนถึงการรับรู้และปรับตัวเข้ากับความต้องการของตลาดยานยนต์ทั่วโลก.

บริษัท “จีดับเบิลยูเอ็ม” (GWM) ได้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยด้วยการนำเสนอ “กลยุทธ์ห่วงโซ่อุตสาหกรรมแบบคู่ขนาน (dual-line)” ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ โดยเฉพาะการเปิดตัวโรงงานผลิตแบตเตอรี่ยานยนต์แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการสร้างความก้าวหน้าในอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นการสนับสนุนนโยบายพลังงานใหม่อย่างจริงจัง โดยมีการเข้ามามีบทบาทในการสร้างและบูรณาการเครือข่ายชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของไทย ส่งผลให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืนในอุตสาหกรรมนี้

ความสำเร็จในระดับโลกของ “จีดับเบิลยูเอ็ม โอรา 03” เป็นอีกหนึ่งหลักฐานที่ชัดเจน นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2564 รถยนต์รุ่นนี้ได้รับความ

นิยมอย่างมากในประเทศไทย ด้วยการส่งมอบรถยนต์มากกว่า 10,000 คัน และยังคงมีส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2565 และ 2566 ความสำเร็จนี้ย้ำให้เห็นถึงความเป็นผู้นำของ “จีดับเบิลยูเอ็ม” ในตลาดรถพลังงานไฟฟ้าล้วนทั่วโลก

การผลิตรถรุ่น “จีดับเบิลยูเอ็ม โอรา 03” ในประเทศไทย ไม่เพียงแสดงถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในตลาดโลกเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ บริษัท “จีดับเบิลยูเอ็ม” ให้ความสำคัญกับการขยายระบบนิเวศในระดับโลก และยังรับผิดชอบต่อสังคมโดยการนำทางภาคส่วนยานยนต์ไปสู่อนาคตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและยั่งยืนมากขึ้น

จากกลยุทธ์นี้ ทำให้ “จีดับเบิลยูเอ็ม” ไม่เพียงแต่เป็นผู้นำในตลาดยานยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้บุกเบิกการ

สร้างอนาคตที่ยั่งยืนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย นอกจากนี้ การเปิดตัวโรงงานผลิตแบตเตอรี่ยานยนต์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังเป็นการแสดงถึงความเป็นผู้นำในการพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่และการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคนี้ ส่งผลให้ “จีดับเบิลยูเอ็ม” กลายเป็นหนึ่งในบริษัทหลักที่มีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงภาคส่วนยานยนต์ไปสู่อนาคตที่เขียวขจีและยั่งยืน

 

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก: ผลกระทบจาก Fed, ราคาน้ำมัน

ตลาดหุ้นทั่วโลกประสบกับการปรับตัวลดลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ภายใต้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันพบกับความผันผวน โดยมีการเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อน และลดลงในวันที่ 8 เมษายน หลังการเจรจาหยุดยิงในตะวันออกกลาง ทองคำก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน เหตุการณ์แผ่นดินไหวในไต้หวันส่งผลกระทบจำกัดต่ออุตสาหกรรมผลิตชิป และตลาดหุ้นจีนได้รับประโยชน์จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด เงินเฟ้อในยุโรปก็แสดงถึงการลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่การลดดอกเบี้ยจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในเดือนมิถุนายน ด้านผู้จัดการกองทุนต่างคาดการณ์ว่าตลาดโดยรวมจะแกว่งตัวตามข้อมูลเงินเฟ้อและผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐฯ ภาพรวมตลาดที่ผ่านมาแกว่งตัวในแนวข้าง...
- Advertisement -

More Articles Like This